เอกเฟกต์ Bokeh (โบเก้) คือ เคล็ดลับ ที่ทำให้ภาพบางประเภทสวยงามขึ้นทันตา เป็นสไตล์เฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเบลอและความชัดในภาพเดียวกัน แถมสามารถทำได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่จะทำอย่างไรให้ออกมาสวยงาม มาดูกันเลย!

“โบเก้” คืออะไร?
โบเก้ คือ เอฟเฟกต์ที่จะสร้างความเบลอให้กับรูปภาพ ไม่ว่าจะอยู่ส่วน Foreground หรือ Background ปกติจะใช้ทำให้วัตถุหลักเด่นชัด โดยลดสิ่งรบกวนสายตาออกไป โดยส่วนใหญ่จะปรากฎในรูปแบบของวงกลม พบเห็นได้ง่ายบริเวณที่มีแสงไฟ เช่น เสาไฟริมถนน หรือไฟรถยนต์ เป็นต้น
คำว่า “โบเก้” เป็นศัพท์จากภาษาญี่ปุ่นใช่หรือไม่? คำตอบก็คือใช่ เป็นคำที่เขียนมาจาก ‘boke’ (ボケ) ซึ่งมาจากคำดั้งเดิมก็คือ 暈ける เป็นกริยาที่แปลว่า จางหายหรือเบลอ ถูกนำไปใช้เรียกในการถ่ายภาพช่วงปี 1990s
เบลอ กับ โบเก้ สองคำนี้คล้ายแต่ต่างกัน ซึ่งคำว่าเบลอคือเป็นชื่อเทคนิคและการเคลื่อนไหว ส่วนโบโก้คือการผสมผสานระหว่างความชัดและเบลอ
แต่ความพิเศษของสองคำนี้ (โบเก้) ก็คือ มีหน้าที่ดึงดูดความสนใจผู้ชมไปยังส่วนหนึ่งของภาพ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงในการสื่อสารออกมาให้สวยงาม
ไขความลับ ทำไมภาพโบเก้ ถึงกลายเป็นที่นิยม

เพราะภาพ “โบเก้” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่ยังมีความรู้สึกและศิลปะซ่อนอยู่ด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ภาพโบเก้กำลังเป็นที่นิยมนั่นเอง!
- โบเก้ช่วยดึงสายตาไปที่จุดสำคัญ
โบเก้ คือสิ่งที่จะช่วยเบลอสิ่งรอบ ๆ ตัวแบบ ทำให้ตัวแบบเด่นชัดขึ้นมาแบบชัดเจนสุด ๆ เหมือนพูดว่า “ดูตรงนี้นะ!” เหมาะมากกับภาพพอร์ตเทรต ดอกไม้ หรืออาหาร ที่ต้องการให้คนดูโฟกัสแค่ตรงจุดเดียว
- สร้างความรู้สึกนุ่มนวล โรแมนติก ฝัน ๆ
โบเก้มีพลังในการสร้าง “อารมณ์” ได้แบบสุด ๆ เพราะพื้นหลังไฟเบลอ ๆ ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกขึ้น และสีที่ละลายกลมกลืนกัน ทำให้ภาพดูละมุนละไม
- ทำให้ภาพดูโปร แม้จะถ่ายง่าย
ภาพที่มีโบเก้มักให้ความรู้สึกว่าเป็น “มืออาชีพ” เพราะมันมีมิติ มีระยะลึก ไม่แบนราบ แม้ใช้กล้องธรรมดา แต่แค่เบลอฉากหลังได้ ภาพก็ดูดีขึ้นทันทีเลย
- ตอบโจทย์ยุคโซเชียลมีเดีย
ในโลกออนไลน์ที่ภาพต้อง “สะดุดตาในพริบตาเดียว” โบเก้ช่วยทำให้ภาพแตกต่างจากภาพธรรมดา ๆ ได้อย่างชัดเจน ใครเห็นก็ต้องหยุดเลื่อนดูภาพต่อไป เช่น โปรเตอร์หนัง ที่ต้องทำให้เรารู้สึกอยากติดตามไปดูภาพยนตร์ต่อ ซึ่งนั่นแหละคือพลังของโบเก้!
- เสน่ห์จากความไม่ชัด
ฟังดูแปลกมั้ย? แต่บางครั้ง สิ่งที่เราไม่เห็นชัดกลับมีเสน่ห์มากกว่า ความเบลอของโบเก้ ทำให้คนดู จินตนาการเองได้ว่าฉากหลังคืออะไร ทำให้มันมีความลึกลับเบา ๆ ด้วยนั่นเอง
การใช้โบเก้ในรูปแบบต่าง ๆ
โบเก้ในหนังภาพยนตร์
การใช้โบเก้ในหนังภาพยนตร์ (Bokeh in Film/Cinema) คือเครื่องมือที่ผู้กำกับภาพ (Cinematographer) และผู้กำกับ (Director) ใช้เพื่อสื่ออารมณ์ ความรู้สึก และบรรยากาศ โดยไม่ต้องพึ่งบทพูดมากนัก เรียกได้ว่าคือการ “พูดด้วยภาพ” อย่างแท้จริง
โบเก้ในหนังภาพยนตร์ คือการใช้การละลายฉากหลังหรือจุดไฟในฉากให้เบลอ จนกลายเป็นดวงแสงนุ่ม ๆ เพื่อช่วยให้ภาพ มีมิติ มีอารมณ์ มีความฝัน ความเหงา หรือแม้แต่ความโรแมนติกนั่นเอง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ถูกใช้กับหนังทุกเรื่อง หนังที่คุณดูล่าสุดยังไงก็ต้องมีเอฟเฟกต์นี้ เพราะทำให้วัตถุดูอยู่ใกล้กล้องมากกว่าที่ควรเป็น เสริมอารมณ์ให้กับนักแสดงที่ต้องถ่ายทอดซีนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เช่น ตกหลุมรัก เครียด ตกใจ หรือบทสนทนาแบบตึงเครียด อีกทั้งยังใช้เพื่อสื่อถึงฉากกลางคืนได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของการใช้โบเก้ในหนังภาพยนตร์
- สื่ออารมณ์แบบไม่ต้องพูด เช่น ตัวละครอยู่คนเดียวในห้องมืด มีไฟเบลอ ๆ ด้านหลัง สื่อถึงความโดดเดี่ยว ความเศร้า, ฉากพระอาทิตย์ตก มีไฟในเมืองเบลอ ๆ สื่อถึงความหวานปนเหงา หรือฉากร้านกาแฟ แสงไฟอบอุ่นเบลอ ๆ ก็สื่อถึงความโรแมนติก อบอุ่นหัวใจ
- ดึงสายตาให้โฟกัสที่ตัวละคร ในฉากที่มีสิ่งรอบตัวเยอะ โบเก้ช่วยแยก “คน” ออกจากพื้นหลัง ทำให้คนดูไม่สับสนว่าจะมองตรงไหน ทำให้ทุกสายตาจ้องไปที่ตัวละครโดยอัตโนมัติ
- สร้างบรรยากาศและสไตล์ภาพยนตร์ โดยโบเก้สามารถสร้าง “ลายเซ็น” ของหนังเรื่องนั้นได้เลย เช่น La La Land ใช้โบเก้หลากสีเพื่อสื่อถึงความฝัน ความหลงใหล และโลกแฟนตาซี Her ใช้โบเก้สีอุ่นช่วยสร้างบรรยากาศของโลกอนาคตที่เหงาแต่โรแมนติก และLost in Translation แสงเมืองโตเกียวเบลอ ๆ ยามค่ำคืน บอกเล่าความสับสน ความเปลี่ยว

โบเก้กับงานวาดภาพ
ถึงแม้คำว่า “โบเก้” จะมาจากวงการถ่ายภาพ แต่ในงานวาดภาพหรือดิจิทัลอาร์ต ก็มีการนำแนวคิดของโบเก้มาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งเทคนิคการใช้โบเก้ในงานวาดภาพ คือจะช่วยเพิ่มความมีมิติ สามารถสร้างเอฟเฟกต์ชวนฝันขึ้นได้ และยังช่วยสร้างบรรยากาศที่สื่ออารมณ์ได้ลึกซึ้งไม่แพ้ภาพถ่ายเลย โดยทำให้วัตถุหลักเด่นขึ้นมานั่นเอง แต่เทคนิคนี้ต้องใช้ความชำนาญในการควบคุมน้ำหนัก และสีที่ใช้ให้ดีถึงจะสื่ออารมณ์ได้
โบเก้ในงานวาดภาพคือการวาดหรือตกแต่งส่วนของภาพให้ดูพร่ามัวหรือเบลอ คล้ายกับเอฟเฟกต์โบเก้ในภาพถ่าย โดยมักใช้เพื่อเน้นตัวแบบ สร้างความนุ่มนวล และเพิ่มแสงเงาและมิติ
ทำไมต้องใช้ “โบเก้” ในภาพวาด
- เน้นจุดโฟกัสหลักของภาพ
โบเก้ช่วยเบลอฉากหลัง หรือบางจุดของภาพ ทำให้ “จุดที่ต้องการให้คนดูสนใจ” โดดเด่นขึ้นมา
- สร้างความรู้สึกฝัน ๆ / โรแมนติก / ลึกลับ
แสงโบเก้สามารถสร้าง mood ที่หลากหลาย เช่น
- สีโทนอุ่น + โบเก้ สื่อถึงความรู้สึกอบอุ่น
- สีฟ้าอมเทา + โบเก้ สื่อถึงความเหงา และลึกลับ
- โบเก้หลากสี + ฉากกลางคืน สื่อถึงความแฟนตาซี
- เพิ่มมิติให้ภาพดู “ลึก” ขึ้น
การเบลอฉากหน้าหรือฉากหลังด้วยโบเก้ ทำให้เกิด ระยะชัดลึก (depth) ในภาพ จากภาพ 2 มิติ กลายเป็นภาพที่ให้ความรู้สึก 3 มิติได้ในทันที
- ใช้ประกอบเทคนิคแสง (Lighting)
ศิลปินมักใช้โบเก้เป็น “จุดสะท้อนของแสง” เช่น แสงแดดลอดใบไม้ แล้วมีดวงโบเก้กระจายอยู่รอบตัวแบบ ให้ความรู้สึกอบอุ่น สดใส

โบเก้กับการถ่ายภาพ
โบเก้กับการถ่ายภาพ คือ ลักษณะของส่วนที่อยู่นอกจุดโฟกัสในภาพที่ถูกเบลออย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแสง เช่น ไฟดวงเล็ก ๆ, แสงสะท้อน, หรือพื้นหลังที่มี texture พิเศษ โบเก้ไม่ได้แค่เบลอ แต่มัน “สวย” โดยสิ่งที่ทำให้ “โบเก้” แตกต่างจาก “แค่เบลอ” คือ รูปร่างของแสงเบลอ (กลม นุ่ม มีแฉก หรือเป็นรูปทรงพิเศษ) ความนุ่มนวลของการละลายฉากหลัง และความกลมกลืนกับบรรยากาศในภาพ ซึ่งการถ่ายภาพกับการเกิดโบเก้เป็นของคู่กัน และนิยมใช้อย่างแพร่หลายในทุกอุตสาหกรรม
ตัวอย่างการใช้โบเก้ในภาพถ่าย
- ภาพพอร์ตเทรต ฉากหลังละลายเป็นไฟเบลอ ๆ เน้นสื่ออารมณ์ สร้างความโรแมนติก
- ภาพมาโคร วัตถุเล็ก ๆ ชัดเจน แต่พื้นหลังเป็นวงแสงเบลอ ทำให้ภาพดูน่ามองมากขึ้น
- ภาพถ่ายกลางคืน คือ โบเก้จากแสงไฟในเมือง ที่ช่วยทำให้ Mood & Tone ดูฝัน ๆ หรือเหงา ๆ
ภาพถ่ายสินค้า การสร้างฉากหลังของสินค้าให้มีโบเก้ คือทำให้สินค้าดูหรูหรา / cinematic มากขึ้น

วิธีการสร้างโบเก้ สำหรับมือใหม่ที่อยากเป็นเซียน
การสร้างโบเก้สามารถทำให้เกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือโดยบังเอิญ คุณจะล้มเหลวมากกว่าสำเร็จอย่างแน่นอน แต่เชื่อเถอะว่าความล้มเหลวจะทำให้คุณเก่งขึ้น จนคุณค้นพบแนวทางในการถ่ายภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายบุคคลหรือสตรีทก็ตาม
- ถ่ายภาพบุคคล หน้าต้องชัด!
ความยากของการเล่นกับโบเก้ก็คือความสมดุลระหว่าง “เบลอ” กับ “คอนทราสต์” อีกทั้งยังต้องทำให้ผู้ชมรู้ว่าวัตถุหลักในภาพของคุณอยู่บริเวณใดอีกด้วย
หมายความว่าสิ่งที่ควรจะต้องชัดในภาพบุคคลมีอยู่สามจุด หรือเรียกว่า Triangle นั่นก็คือตา จมูก และปาก ไม่ว่ารูปภาพของคุณจะเป็นอย่างไร แต่ภาพบุคคลที่ดีทั้งสามจุดนี้ต้องชัด ถึงจะได้ภาพที่ชวนมอง

2.ฉากเมืองสุดอัศจรรย์ โบเก้มีให้มองทั้งวันยังได้
ในเมืองส่วนมากมักจะมีแสงไฟที่สว่างไสว ทำให้เป็นแหล่งกำเนิดโบเก้ชั้นดี ยิ่งมีแสงไฟเยอะยิ่งดี! ไม่ว่าจะเป็นไฟจากรถยนต์ เสาไฟ ร้านค้า หรือไฟฉายของตำรวจก็ตาม การเดินอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามค่ำคืนนั้น คือสวรรค์ของช่างภาพสายโบเก้ เปิดรูรับแสงให้กว้างแล้วลุยได้เลย

3.สร้างเส้นแสง Bokeh Light Trails
ถนนที่วุ่นสายในเมืองคือแหล่งกำเนิดเส้นแสง (Light Trails) ชั้นดี วิธีเริ่มถ่ายก็คือคุณต้องมีขาตั้งกล้อง หรืออุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้ที่ทำให้กล้องอยู่กับที่โดยไม่ขยับเป็นเวลานาน อาจเริ่มที่ Shutter speed ที่ 1/30, 1/15, หรือ 1/10 เป็นต้น

เลือกเวลาถ่ายเป็นช่วงเย็นถึงกลางดึก จะทำให้เส้นแสงออกมาสวยงาม แต่การถ่ายสไตล์นี้ต้องมีความอดทนสูง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน
สรุป
“โบเก้” คือเอฟเฟกต์ของส่วนที่อยู่นอกจุดโฟกัสในภาพถ่ายหรือภาพวาด ที่ถูกเบลออย่างมีศิลปะ โดยเฉพาะบริเวณที่มีแสง ทำให้เกิดเป็น “ดวงไฟพร่ามัว” ที่ดูนุ่มนวล สวยงาม และมีมิติ ซึ่งโบเก้ไม่ใช่แค่ “ความเบลอ” แต่คือ “ศิลปะแห่งแสงและความรู้สึก” มันช่วยดึงดูดสายตา บอกเล่าเรื่องราว และสร้างอารมณ์ได้ลึกซึ้ง โดยไม่ต้องพูดแม้แต่คำเดียว ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย โบเก้คือ “เครื่องปรุงลับ” ของภาพถ่าย ที่ใส่แล้วทำให้ภาพน่ามองขึ้นมากเลยล่ะ!
สนใจซื้อภาพโบเก้ สวย ๆ ถูกลิขสิทธิ์ ด้วย Number 24 ผู้ให้บริการ Shutterstock แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นำเสนอคอลเล็กชั่นภาพถ่าย ภาพประกอบ เวกเตอร์ วิดีโอ เพลง 3D และ AI ถูกลิขสิทธิ์ที่หลากหลายและครบครัน เรามีประสบการณ์กว่า 15 ปีในธุรกิจลิขสิทธิ์ภาพ และให้บริการและแนะนำเรื่องลิขสิทธิ์การใช้ภาพ วิดีโอ และเพลงแก่ลูกค้าหลากหลายประเภท พร้อมให้บริการคุณอย่างครบวงจร โทร. 099-459-5244 หรือ https://number24.co.th
บทความโดย : What Is the Bokeh Effect and How to Achieve It in Photos
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24