Untitled design

AI, Contributor

จับเข่าคุย! ใช้ AI เป็นพาร์ทเนอร์ในงานครีเอทีฟอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ โดยศิลปินนักกำกับภาพ Jah Reynolds

บางอาชีพ AI ก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้ แถมยังช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นด้วย คุณ Jah Reynolds ศิลปินและนักเล่าเรื่องจะมาตอบคำถามที่ตอบได้ยาก เกี่ยวกับการใช้ AI กับงานศิลปะ เพื่อหาคำตอบว่าเขาใช้มันยกระดับผลงานและการสื่อสารในงานอย่างไร

โลกของงานศิลปะเปลี่ยนไปอย่างมากในยุคนี้ ด้วยการมาถึงของ Generative AI และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เพียงแค่พิมพ์ลงไปในเครื่องมือ text-to-image ภาพที่คุณต้องการก็จะปรากฎ ขึ้นอยู่กับไอเดียและการเขียนเท่านั้น Generative AI ของ Shutterstock คือหนึ่งใน AI โซลูชั่นที่ยืนหนึ่งในวงการ เพราะถูกพัฒนามาอย่างถูกจริยธรรมและกระจายผลตอบแทนสู่ศิลปินที่ผลงานถูกนำมาฝึก AI

ทุกความก้าวหน้าของเทคโนโลยีย่อมมีข้อดีข้อเสียเสมอ

AI จะช่วยเร่งกระบวนการและกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ด้วยศักยภาพนี้มันสามารถแทนที่งานศิลปินได้ด้วยซ้ำ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาบ้างก็ว่าขโมยมาจากที่อื่น หลายคนจึงกังวลกับการนำมันมาใช้งานจริง

เพื่อให้ได้มุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับหัวข้อในวันนี้ เราได้พูดคุยกับศิลปินนามว่า Jah Raynolds ที่ใช้ AI กับงานของเขาเองมาแล้ว อันที่จริงเขาใช้งานมาหลายสื่อซึ้งรวมถึง Generative AI ด้วย

ผลงานล่าสุดของเขา Helmet City ใช้ Generative AI ในการผลิตผลงานรายละเอียดสูง สไตล์ไซไฟ โดยมีฉากหลังอยู่ที่เมืองบรู๊คลิน เขาทดลองใช้งาน Generative AI พร้อมกับเครื่องมือ AI อย่างอื่นอีกมากมาย เพื่อผลิตผลงานชิ้นนี้

การสัมภาษณ์นี้คุณ Reynolds จะได้พูดคุยกับคุณ Brand Skip Wilson ผู้ดำรงตำแหน่ง Shutterstock’s Vice President of Brand ถึงคำถามที่ตอบได้ยากเกี่ยวกับ AI และอนาคตของมันที่จะส่งผลต่องานครีเอทีฟ

ประโยชน์ของการใช้ Generative AI ในการสร้างภาพคืออะไร?

Generative AI เปิดประตูบานใหม่ในการสร้างงานศิลปะให้ทุกคน รวมถึงคุณ Raynolds เขาใช้มันเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้ตัวเอง และปลดล็อคความเป็นไปได้ใหม่ ๆ 

แม้ว่าเขาจะเปิดใจใช้ AI สร้างงานศิลปะ แต่เขาก็เลือกที่จะใช้มันเป็นเครื่องมือเท่านั้น แทนที่จะพึ่งพามันมากเกินไปเหมือนเป็นมือที่สาม เขากล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือมนุษย์ต้องควบคุมกระบวนการทางศิลปะด้วยตนเอง

คุณ Reynolds กล่าว “ผมมองว่า AI เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำงานคู่กัน เพราะผมไม่ต้องการให้มันทำงานแทนผม ผมต้องการให้มันทำงานร่วมกับผมแค่นั้น”

ท้ายที่สุดแล้วคุณ Reynolds เชื่อว่า Generative AI จะช่วยสร้างภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการทางด้านศิลปะของตัวเองได้ ซึ่งสามารถทำได้แล้วในคอลเลคชั่น Helmet City 

ผลงานเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชีวิตวัยเด็ก – สไตล์ฮิปฮอป พื้นหลังในกรุงนิวยอร์ก ภาพโทนสีสไตล์โทคุซัทสึ แนวคิดเหล่านี้มาจากประสบการณ์และจินตนาการของเขา AI เป็นแค่เพียงเครื่องมือที่ช่วยให้ผลงานเป็นจริง

ภาพโดย Jah Reynolds

Generative AI จะกลายเป็นที่หารายได้หลักของศิลปินได้อย่างไร?

Shutterstock กำลังทำระบบแบ่งปันรายได้ให้ศิลปินอย่างถูกจริยธรรมผ่าน The Contributor Fund เพื่อจ่ายให้ศิลปินที่ถูกนำผลงานมาฝึก AI 

ด้วยเหตุนี้ ภาพที่ถูกสร้างโดย AI จะช่วยให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานมีโอกาสขายงานได้มากขึ้น คุณ Reynols กล่าวว่าเขาขายงาน AI บนเว็บ Web3 ทำให้เขาตื่นเต้นและมองว่าผลงานอื่น ๆ ของเขาก็สามารถขายได้ และกลายเป็นชิ้นส่วนในการสอน AI ได้ด้วย

คุณ Reynolds กล่าว “สิ่งที่ตื่นเต้นที่สุดก็คือโมเดล AI ถูกสร้างจากจินตนาการผม จากนั้นภาพที่ผมสร้างก็จะวนกลับไปช่วยให้ทุกคนสร้างผลงานอื่น ๆ โดยมีภาพของผมเป็นพื้นฐาน สิ่งนี้มันเจ๋งมาก”

เขายังฝากบอกถึงวิศวกรที่ทำระบบเครื่องมือ AI ว่า “ต้องทำให้มั่นใจว่าศิลปินทุกคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลตอบแทนไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง”

ความท้าทายในการใช้ Generative AI ในงานศิลปะคืออะไร?

ผลพวงจากประโยชน์ของ AI ที่มีมากมาย แต่ความท้าทายก็มีมากมายตามมาเช่นกัน ทั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับจริยธรรมและความเป็นเจ้าของผลงานที่สร้างโดย AI ยังคงวนเวียนอยู่ในบทสนทนาอย่างต่อเนื่อง

คำถามยอดฮิตก็คือ

  • ใครเป็นเจ้าของผลงานศิลปะ AI กันแน่?
  • บทบาทของศิลปินจะเปลี่ยนไปเพราะ AI ไหม?
  • การสร้างผลงานตัวเองด้วยลายเส้นคนอื่นมันยุติธรรมเหรอ?

Shutterstock ให้คำตอบกับคำถามเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเพื่อหาทางออกที่เป็นกลางที่สุด เราให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม นอกจากกระจายรายได้สู่ศิลปิน เรายังนำภาพที่มีความหลากหลายสูงมาฝึก AI ด้วย

อย่างที่คุณ Reynolds กล่าวก็คือเราทำให้เขามั่นใจว่า Shutterstock AI จะช่วยให้ศิลปินมีรายได้อย่างแน่นอน

อีกความท้าทายก็คือการสร้างภาพตัวเองสไตล์คนอื่น คุณ Reynolds กล่าวว่าศิลปินควรได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานผู้อื่น ไม่ใช่ลอกเลียนแบบผู้อื่น

คุณ Wilson เปรียบเทียบตัวอย่างของบีทเพลงสไตล์ฮิปฮอป ส่วนใหญ่ก่อนศิลปินจะเอามาแร็ปเขาจะให้เครดิตกับต้นฉบับเสมอ เพื่อ

คุณ Reynolds เชื่อว่าตราบใดที่เราให้เครดิตกับผลงานต้นฉบับ ผลงานที่ได้แรงบันดาลใจมานั้นย่อมรับได้ ต้องเรียนรู้หาตรงกลางระหว่างมนุษย์และ AI

ภาพโดย Jah Reynolds

AI จะมาแทนที่งานครีเอทีฟได้ไหม?

หนึ่งในประเด็นร้อนที่สุดของโลกที่เกี่ยวกับ AI ก็คือสิ่งนี้จะมาแทนที่งานครีเอทีฟหรือไม่? เพราะหลายคนต่างมีปัญหาเกี่ยวกับคำถามนี้ทั้งสิ้น คุณ Reynolds เชื่อว่ามันไม่ได้มาแทนแต่จะมาเปลี่ยนบทบาทการทำงานของครีเอทีฟเฉย ๆ เหมือนกับทุกเทคโนโลยีที่เคยเกิดขึ้นบนโลก ขั้นตอนการทำงานเท่านั้นที่จะเปลี่ยนไป

คุณ Reynolds กล่าว “ผมพูดตรง ๆ เลยว่า AI ช่วยให้งานของผมง่ายขึ้นมาก มีเวลาว่างมากขึ้นในการขัดเกลาไอเดีย รวมถึงเพิ่มโอกาสมากมายให้ทุกคน แต่ผมก็ยังยืนยันว่ามนุษย์ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำงานด้วย”

เขายังพูดถึงผลกระทบในแง่ลบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากเขาใช้ Generative AI ก็คือการที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลยในการสร้างผลงานศิลปะ มันไม่ดีแน่

แม้ผลลัพธ์จะออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ศิลปินก็ยังคงต้องใช้เวลากับการเขียน Prompt ให้สมบูรณ์อยู่ดี ซึ่งคุณ Reynolds กล่าวว่าการเขียน Prompt ก็คือรูปแบบศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะเราต้องฝึกและขัดเกลาเช่นกัน

ภาพโดย Jah Reynolds

AI จะสร้างผลกระทบอย่างไรในอนาคต

เห็นได้ชัดว่า Generative AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงมุมมองงานศิลปะของศิลปิน ให้เกิดสิ่งใหม่ขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่สามารถแทนที่ศิลปินหรือผลงานศิลปะที่เป็นกายภาพได้ แต่จะมาช่วยขัดเกลาและยกระดับผลงานศิลปะให้ดียิ่งขึ้นต่างหาก แถมยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ด้วย

ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวนี้ให้ลึกขึ้น เรามี eBook หัวข้อ How to Use Generative AI for Real Work: A Practical Guide for Creatives & Marketers. เวอร์ชั่นภาษาไทยแจก ถ้าสนใจสามารถกดดาวน์โหลดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้

บทความโดย : Fireside Chat: Visual Artist Jah Reynolds Chats About Artists Using AI as Creative Partners

เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24

Tell us about yourself





    Type: