คุณอยากให้ธุรกิจเล็กๆของคุณขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆในใจทุกคนเพียงแค่การเขียนบล็อกรึเปล่า? ครั้งนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการเขียนบทความสำหรับนักทำธุรกิจอิสระมือใหม่ โดยนักทำธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จผ่านการการเขียนบทความมาแล้วให้ได้ทราบกัน
ที่ผ่านมาทางทีมงานได้สอบถามผู้ประกอบการอิสระถึงผลประโยชน์ในการการเขียนบทความใน 2023 ว่ามีดีอย่างไร หลายๆท่านส่วนใหญ่พูดถึงเรื่อง SEO, Web traffic, และปริมาณการขายสินค้า ซึ่งหลายๆอย่างเกินคาดไปจากสิ่งที่ทีมงานคิดไว้มาก ในหลายกรณีพิสูจน์ได้ว่าการเขียนบทความคือหนึ่งในวิธีที่สร้างและรักษา Community ของแบรนด์ไว้ได้อย่างดี
การเขียนบทความ คือ
การเขียนบทความ คือ การเขียนเนื้อหาเพื่อนำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อมูลจากความเป็นจริงนำมาเรียบเรียงเพื่อสื่อสารด้วยวิธีการเขียนในเชิงบอกเล่า แนะนำ หรือวิจารณ์ โดยการเขียนบทความนั้นมีการแยกประเภทตามลักษณะของเนื้อหาอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน เช่น บทความวิชาการ, บทความวิเคราะห์, บทความสัมภาษณ์ หรือบทความแสดงความคิดเห็นทั่วไป เป็นต้น
โครงสร้างบทความ
การเขียนบทความ มีหลายสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะโครงสร้างของบทความที่มักจะนำมาใช้ในการเขียนคอนเทนต์ ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่
- ชื่อเรื่อง (Headline) : หัวข้อของบทความที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
- ส่วนนำเรื่อง (Lead) : ส่วนของการเกริ่นนำหรือแนะนำเนื้อหาแบบภาพรวมของบทความ
- เนื้อหา (Body Copy) : ส่วนที่จะลงรายละเอียดต่าง ๆ ของเนื้อหา
- สรุปเรื่อง (Conclusion) : สรุปสาระสำคัญในย่อหน้าสุดท้ายของบทความ
ในการเขียนบทความนอกจากเนื้อหาที่น่าสนใจ การใช้ภาพประกอบที่สอดคล้องกับเนื้อหาก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะภาพประกอบสามารถเสริมให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น
บทความทั่วไป กับ บทความบนโลกออนไลน์ เหมือนหรือแตกต่างกันยังไง
การเขียนบทความทั่วไป กับ บทความบนโลกออนไลน์ มีความเหมือนกันในหลาย ๆ ด้าน เช่น โครงสร้างหลักของบทความที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ชื่อเรื่อง (Headline), ส่วนนำเรื่อง (Lead), เนื้อหา (Body Copy), และสรุปเรื่อง (Conclusion), วัตถุประสงค์ของการเขียนบทความที่มักจะมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูล สื่อสารข้อความ หรือแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้ภาษาในการเขียนบทความ บทความทั้งสองแบบมักใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ชัดเจน และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระแสก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือแนะนำบริการสินค้าและหลังการขายก็ดี คุณ Morrisa Jenkins เจ้าของร้านผลิตภัณฑ์เสริมความงาม Freedom Apothecary กล่าวว่าการเขียนบทความในบล็อกช่วยให้เธอได้รู้จักลูกค้า พร้อมได้รับการแบ่งปันเคล็ดลับความงามจำนวนมากในช่วงโรคระบาดที่ผ่านมา
คราวนี้ในปี 2023 การเขียนบทความของ Freedom Apothecary เน้นไปที่การให้คำแนะนำผู้ที่เริ่มต้นดูแลตนเองง่ายๆที่บ้าน ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาซื้อของที่ร้านของเขา “การเขียนบทความคือสิ่งจำเป็นเพราะเราต้องการให้ความรู้กับทุกคน เริ่มจากการอธิบายเครื่องมือ สินค้าแล้วลากโยงไปที่ร้านค้าในเครือ” เธอกล่าว
นอกจากเรื่องราวของเธอแล้วเรายังมีเทคนิคจากนักทำธุรกิจอิสระอีก 9 คนผู้เชี่ยวชาญด้านกการเขียนบทความมาแนะนำ ที่จะยกระดับบล็อกของแบรนด์คุณให้ก้าวกระโดดยิ่งขึ้นไปอีก
9 เทคนิคเขียนบทความให้โดนใจผู้อ่าน

เพิ่มมูลค่าให้กับบล็อก
การเขียนบทความมันมีอะไรมากกว่าการทำการตลาดให้สินค้า อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือการทำให้คุณภาพชีวิตของลูกค้านั้นง่ายขึ้น
คุณ Mfon Ekpe-Dancy เจ้าของ Ziggy’s Pudding ผู้ผลิตสินค้ามังสวิรัติและการบำรุงผิว กล่าวว่า “การเขียนบทความในบล็อกที่เชิดชูแค่สินค้าตัวเองคือข้อผิดพลาด แน่นอนว่าใครๆก็อยากได้ลูกค้าเข้ามาซื้อของ ดังนั้นเราจึงต้องสอนวิธีใช้และทำไมต้องใช้ของเราด้วย บล็อกที่ทำให้เกิดการเข้ามาซื้อของมากที่สุดคือบล็อกที่มีเนื้อหาซึ่งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้อย่างดี”
บล็อกของ Ziggy’s Pudding ล่าสุดเขียนอธิบายเกี่ยวกับการดูแลผิวช่วงหน้าหนาว การดูแลกลากเกลื้อนทารก รวมถึงการดูแลหนังศรีษะเส้นผมของทารกอีกด้วย เน้นการแก้ปัญหาลูกค้าที่พบเจอในชีวิตประจำวันโดยตรง

ร่วมมือและโปรโมทสิ่งต่างๆร่วมกับผู้อื่น
นอกจากการเขียนบทความที่มีเนื้อให้ความรู้ การทำหัวข้อบทสัมภาษณ์ช่วยสร้าง evergreen คอนเทนต์ก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะสามารถสร้างคอนเนคชั่นได้อีกด้วย คุณ Allison Ullo ผู้ก่อตั้ง Leaves of Leisure แบรนด์สินค้าชาสมุนไพร ได้สร้างบล็อกซีรีส์ที่เรียกว่า Ladies of Leisure ที่ไปสัมภาษณ์นักธุรกิจหญิงจำนวนหนึ่ง เรื่องกิจวัตรตอนเช้าและคำแนะนำสำหรับผู้หญิงในการทำธุรกิจ
คุณ Allison กล่าว “การสร้างคอนเนคชั่นกับแบรนด์อื่นเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยยกระดับหน้าตาบริษัท เพราะทั้งสองบริษัทต่างต้องช่วยโปรโมทอยู่แล้ว ยิ่งมีคนมองเห็นเข้าไปใหญ่ ส่วนตัวฉันเคยสัมภาษณ์ผู้หญิงกว่า 50 คนที่ชื่นชอบอะไรเหมือนกัน ส่วนหนึ่งกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและได้ร่วมมือกันระยะยาวอีกด้วย”

เป็นตัวเองและมีบุคลิกของตัวเอง
การเขียนบทความ โดยใช้ Keyword ช่วยได้มากแต่ถึงจะมีประโยชน์ก็ไม่ควรนำมาใช้ให้เสียอรรถรสในการอ่าน เขียนให้คนอ่านไม่ใช่อัลกอริทึมอ่าน
คุณ Nicole Van Lun ประธานบริษัท Gorgeous Confidence แบรนด์ดูแลผิวที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง กล่าวว่า “บล็อกของคุณไม่ควรอยู่ในรูปแบบเดิมๆ แล้วพยายามฉีกกรอบไปเรื่อยๆ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในการเขียน เป็นตัวเองและอย่างกลัวในการแสดงความเห็นแรงๆในครั้งคราว”
หัวข้อที่โดนใจและเจาะจงมักโดนใจผู้ชม อย่างบล็อกล่าสุดของบริษัทนี้ก็คือ การจัดการความเครียดในช่วงเทศกาลวันหยุด เคล็ดลับความงามกับการท่องเที่ยว และความสำคัญของการดูแลตัวเอง เป็นต้น

แบ่งปันเรื่องราวและมูลค่าแบรนด์
บริษัทกาแฟโดยทหารผ่านศึก Fire Department Coffee เริ่มการเขียนบทความตั้งแต่เริ่มต้นทำการตลาด ทุกวันนี้หัวข้อบล็อกของพวกเขาเต็มไปด้วยคนเข้ามาดูมากมาย ซึ่งหัวข้อเกี่ยวกับ “สินค้ากาแฟยอดฮิตประจำทุกเดือน” และ “กาแฟแต่งกลิ่นต่างๆ” อีกทั้งยังมีเทคนิคในการชงมากมายให้เรียนรู้ แต่ท้ายที่สุดก็ยังคงเน้นแฝงโฆษณาให้กับ Fire Dept รวมถึง Coffee Charitable Foundation (มูลนิธิการกุศลกาแฟ) ที่มีขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและบาดเจ็บการเขียนบทความเป็นโอกาสที่ดีในการแบ่งปันเรื่องราวและค่านิยมของแบรนด์ ยิ่งคุณสนับสนุนแนวคิดอะไรก็ตาม ลูกค้าที่ชื่นชอบแนวทางของคุณก็ยิ่งอยากสนับสนุนคุณมากขึ้น

วางแผนเวลาปล่อยคอนเทนต์ให้ดี
คุณ Derek Turner ตำแหน่ง Copywriter ของ Fire Department กล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือการวางแผนหัวข้อบล็อกที่จะเขียนล่วงหน้า ดูว่าเทรนด์ใดที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหน ยิ่งคุณปล่อยคอนเทนต์ตรงตามเวลาเท่าไหร่ก็ยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากเท่านั้น”

พร้อมรับข้อเสนอแนะ
คุณ Caroline Jones ผู้ร่วมก่อตั้ง MadeKind ผู้ให้บริการสินค้าทำความสะอาดจากธรรมชาติ บอกว่า “เรามีพื้นที่ว่างมากมายให้กับความคิดสร้างสรรค์เสมอ และลูกค้าก็อยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งนั้นด้วย ลองถามลูกค้าก่อนจบการเขียนบทความให้ทิ้งความเห็นบางอย่างเพื่อใช้ในการพัฒนาต่อบ้างก็จะดีไม่น้อย เพราะเราจะได้ทราบถึงความเห็นส่วนตัวลึกๆของลูกค้าด้วยเช่นกัน
บล็อกของคุณมีอยู่เพื่อลูกค้า ปล่อยให้พวกเขาแสดงความเห็นถึงสิ่งที่คุณเขียนมา พิจารณาสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงคุณในโซเชียลมีเดียเสมอ คำถามแบบไหนที่พวกเขาต้องการตอบกลับที่สุด ให้ลองสำรวจโพลหรือแบบสอบถามเสมอๆเพื่อข้อมูลเบื้องลึกที่คุณไม่รู้มาก่อน

ใช้ภาพและวิดีโอให้เหมาะสม
คุณ Greta Jines หัวหน้าฝ่ายคอนเทนต์ของบริษัท MIMOSA Handcrafted กล่าวว่า “ถ้าคุณต้องการให้แบรนด์เติบโต ยิ่งถ้าคุณต้องตอบคำถามเดิมๆซ้ำๆซากๆจากลูกค้า ลองใช้การเขียนบทความในการแก้ปัญหาคำถามนั้นดู รวมถึงใส่ภาพและวิดีโอที่ทุกคนดูแล้วต้องร้อง “อ๋อ งี้นี่เอง” ลงไปประกอบด้วย”
หัวข้อยอดนิยมของบริษัทนี้ก็คือวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับ และการให้ความความรู้เรื่องต่างๆ แต่อย่าลืมเติมภาพถ่ายจากสินค้าจริงและภาพสต็อกเข้าไปด้วย เพื่อการเล่าเรื่องที่สมบูรณ์แบบ

ตั้งเป้าหมายที่คว้าได้จริง
ส่วนใหญ่นักทำธุรกิจอิสระมักไม่ค่อยมีเวลาว่าง การจัดการจึงสำคัญมากโดยเฉพาะการวางแผนตารางเวลา ลองหาหัวข้อที่ลูกค้าต้องการจริงๆแล้วเขียนมัน
การที่คุณเริ่มเขียนบล็อก 4 ครั้งต่อเดือนแล้วคุณไม่ใช่นักเขียนชื่อดัง คุณอาจจะไขว้เขวไปเขียนเรื่องนี้ที เรื่องนู้นทีเพื่อให้ครบจำนวน ทำให้ตัวตนไม่สม่ำเสมอต่อการสร้างแบรนด์ ดังนั้นคุณควรโฟกัสไปที่สิ่งที่จะเขียนจริงๆดีกว่าจำนวน การเขียนบทความแค่ 1 อันต่อเดือนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

นำหัวข้อเนื้อหาดังมาใช้ใหม่
การใช้หัวข้อจากโซเชียลมีเดียมาเขียนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คุณสามารถนำหัวข้อที่มีการพูดถึงเยอะมาเขียนใหม่แล้วเติมเนื้อหาส่วนตัวที่คุณคิดว่าสมควรเข้าไปได้ ลองหาจาก Pinterest ก็ได้ถ้าต้องการ
การเขียนบทความคือการเปิดด้วยหัวข้อใหญ่ แล้วค่อยๆลงลึกไปในรายละเอียด คุณสามารถแยกย่อยได้อีกเยอะว่าคุณอยากลงลึกไปแค่ไหน จะทำให้คุณประหยัดเวลารวมถึงได้คอนเทนต์อีกเป็นกอง คุณจะได้ใช้เวลากับอย่างอื่นในการผลักดันธุรกิจไปข้างหน้าด้วย
โดยเฉพาะ Creative Flow ของ Shutterstock ที่ออกแบบมาให้ทุกคนใช้ได้ง่าย ทั้งภาพ วิดีโอ ตัดต่อ ข้อความต่างๆ มีให้เลือกใช้มากมายหลากหลายแพลตฟอร์ม อย่าลืมนำไปใช้กันด้วยนะ
สรุป
สำหรับนักทำธุรกิจอิสระมือใหม่ การเขียนบทความเริ่มต้นมักจะเน้นการใช้บทความในการสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายผ่าน SEO และการดึงดูดลูกค้า บทความต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน เช่น ชื่อเรื่อง, ส่วนนำเรื่อง, เนื้อหา, และสรุปเรื่อง
การเขียนบทความจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าผ่านการให้ความรู้และการร่วมมือกับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการใช้ภาพและวิดีโอช่วยเสริมความเข้าใจ การตั้งเป้าหมายในการเขียนบทความและการวางแผนเวลาอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ