สีคือตัวแทนและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างมากในแง่ของจิตวิทยาและภาพจำ มาเรียนรู้การเลือกชุดสีให้กับแบรนด์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใช่และถูกใจทุกคน!
การจัดวางองค์ประกอบ สี และแสงคือส่วนหนึ่งในการออกแบบและมีบทบาทต่อสมองในการประเมินความรู้สึก ทุกรายละเอียดมีอิทธิพลต่องานออกแบบ ศิลปะ และจินตนาการของเรา ขึ้นอยู่กับวิธีการสื่อสารออกไป
สีก็คือหนึ่งในบทบาทสำคัญของการประมวลผลในสมองของเรา ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญอย่างมากในการเลือกชุดสีที่เหมาะสมกับตัวแบรนด์ให้มากที่สุด
ไม่ว่าคุณจะพึ่งสร้างแบรนด์หรือกำลังรีแบรนด์อยู่ ก็สามารถนำเทคนิคของเราไปใช้ได้เช่นกัน แต่ก่อนจะทำแบบนั้นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคนที่เห็นสีเหล่านี้รู้สึกอย่างไร
จิตวิทยาการเลือกใช้สีให้กับแบรนด์
คุณเลือกซื้อสินค้าจากสีตลอดเวลาโดยที่คุณไม่รู้ตัว สิ่งนี้มักเกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณแต่จริง ๆ แล้ววิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่าทฤษฎีการใช้สี
ทฤษฎีสี Vs. จิตวิทยาสี
ทฤษฎีสีจะเป็นตัวอธิบายว่าสีต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และมีลักษณะอย่างไรเมื่อนำไปรวมกับโทนสีต่าง ๆ และถูกพัฒนาจนกลายเป็นจิตวิทยาสี ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่
ทั้งสองสิ่งคือความรู้ที่แบรนด์จะต้องใช้ในการพัฒนาและเลือกชุดสีที่เหมาะสมในการทำการตลาดต่อไป
จิตวิทยาสีจะมุ่งเน้นไปที่สัญลักษณ์และความหมายของสีแต่ละประเภท รวมถึงผลกระทบของสีและการผสมผสานเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจมนุษย์อย่างไรได้บ้าง เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดใช้ในการสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ละเฉดสีกระตุ้นความรู้สึกไม่เหมือนกัน เป็นการกำหนดอารมณ์ของผู้ชมให้แสดงออกต่อชิ้นงานนั้น ๆ อย่างตั้งใจ
สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องเข้าใจมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ว่าพวกเขามีอารมณ์ร่วมกับสีที่คุณจะใช้อย่างไร เพราะผลกระทบของจิตวิทยาสีไม่ใช่สากล ต่างคนต่างวัฒนธรรมมีความเข้าใจสีที่ไม่เหมือนกัน ทำให้คุณต้องศึกษาก่อนทำการตลาดอย่างสม่ำเสมอ
การเลือกใช้สีที่ถูกต้องนั้นหมายถึงมูลค่าของแบรนด์และจำนวนการซื้อขายสินค้าจะเพิ่มขึ้นด้วย
สีโทนอุ่น
สีโทนอุ่นอย่างเช่น สีแดง สีส้มและสีเหลือง สร้างความรู้สึกในสมองเราทันทีว่านี่คือสีที่อบอุ่น สดใสและมีชีวิตชีวา สีเหล่านี้สามารถสื่อสารได้มากมาย แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็อาจตีกันจนความหมายหายไปได้ เพราะสีโทนอุ่นส่วนใหญ่เป็นสีที่เด่นชัดจนเกินไป เป็นสีที่คอยช่วยยกระดับสีรอบข้างขึ้นมาให้โดดเด่น และไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสีอื่น ๆ เท่าไหร่นัก
ควรใช้สีโทนอุ่นพอประมาณ โดยเน้นที่วัตถุหลักของแบรนด์ หรือจับคู่กับสีโทนเย็นเพื่อสร้างความสมดุล
สีโทนเย็น
ขั้วตรงข้ามของสีโทนอุ่น ที่มีความเย็นยะเยือกและให้ความสงบที่มากกว่า เช่น สีฟ้า สีเขียว และสีม่วง หรือแม้แต่สีชมพูที่เป็นได้ทั้งสีโทนอุ่นและโทนเย็น เข้ากันได้ดีกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารเรื่องความเรียบง่าย
มาดูกันดีกว่าว่าชุดสีแบบใดที่เหมาะสมกับงานของคุณ
แดงสุดฤทธิ์พิชิตใจ
ทุกประเทศล้วนมีความรู้สึกต่อสีแดงที่ต่างกันในบางครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือความรู้สึกสดชื่น กระตือรือร้น ทรงพลัง ความแข็งแรง และความว่องไว เป็นสีที่สั่งให้ผู้ชมต้องหยุดดูทันทีเพื่อครุ่นคิดกับบางสิ่ง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสีนี้เราจะเห็นบ่อยมากในงานออกแบบโลโก้ เช่น CNN, Coca Cola และ Pinterest ต่างใช้สีแดงในงานโลโก้ของบริษัท ซึ่งทั้งสามแบรนด์นี้สื่อสารไว้ประมาณว่า
- CNN ให้พลังแห่งการเรียนรู้
- Coca-Cola ให้พลังแห่งความสนุกสนาน
- Pinterest ให้พลังแห่งความสร้างสรรค์
แบรนด์เหล่านี้ล้วนถ่ายทอดอารมณ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ
สีส้มอบอุ่นสายตา
สีส้มเป็นอีกสีที่ให้ความสว่างและความสดใส มอบความสมดุลให้กับทุกชิ้นงานเหมือนกับสีแดง แต่มีความจืดกว่าเล็กน้อย จึงทำให้สีส้มไม่ดูดุดันจนเกินไป
เนื่องจากสีส้มมีชื่อมาจากผลไม้ ทำไมให้บ่อยครั้งที่ถูกใช้ในโลโก้เครื่องดื่ม เช่น Fanta และ Crush เพราะสีส้มให้ความรู้สึกสนุสนานโดยธรรมชาติ
แต่ถึงอย่างนั้นสีส้มก็ยังถูกใช้ในโลโก้ Amazon ซึ่งเป็นสีดำและสีขาว ยกเว้นแต่ลูกศรที่เชื่อมต่อบริเวณตัว A ถึง Z ทำให้เกิดการดึงดูดสายตาที่ยอดเยี่ยมและอบอุ่น
สีเหลืองแสนสดใส
ทุกสีล้วนมีความหมายที่ขัดแย้งกันเอง โดยเฉพาะสีเหลืองที่มีสีสว่างสดใสและเป็นเชิงบวกสูง สื่อสารถึงเรื่องความสุข แสงอาทิตย์ ฤดูร้อน และความสุข แต่ก็ยังคงสื่อสารในเรื่องเชิงลบได้ด้วย เช่น อาการป่วย ความขี้อิจฉา และความอันตราย
ซึ่งมีหลายองค์กรใช้สีเหลืองสื่อสารด้านดี ๆ ออกมา เช่น McDonals, Nikon และ National Geographic ถึงแม้แต่ละบริษัทจะค้าขายผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน แต่เป้าหมายที่เหมือนกันคือทำให้ผู้บริโภคมีความสุขในชีวิต
สีเขียวเฟรนลี่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม
บางพื้นที่ “สีเขียว” สื่อสารได้ถึงความหมายว่า “ไป” โดยเฉพาะสัญญาณไฟจราจร แต่ในระดับสากลนั้นสีเขียวหมายถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความยั่งยืน
หลายองค์กรล้วนใช้สีเขียวในแบรนด์ตนเอง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรม เช่น Whole Foods และ John Deere
สีน้ำเงินแสนสงบ
ถ้าคุณอยากไ้ด้สีที่เห็นแล้วรู้สึกสงบเงียบ ให้นึกถึงสีน้ำเงินที่ส่วนใหญ่จะนึกถึงมหาสมุทรและการทำสมาธิ ทำให้สีน้ำเงินเหมาะสมกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารเรื่องสินค้าและบริการที่แสนเงียบสงบ ทำให้เราเห็นธนาคารและบริษัทให้บริการเรื่องการเงินหลายแห่งใช้สีน้ำเงินในงานออกแบบ
หากลูกค้าทำธุรกรรมเรื่องการเงิน อย่างน้อยสีที่ใช้ควรสื่อสารได้ว่าถ้าพวกเขาทำธุรกรรมกับเรา จะได้รับบริการที่เงียบสงบและไร้กังวล แม้ว่าธุรกรรมหลายอย่างจะตึงเครียดก็ตาม
สีม่วงสูงศักดิ์
หากคุณต้องการทำให้งานมีกลิ่นอายของความหรูหราและสูงศักดิ์ สีม่วงคือวิธีที่ดีในการบรรลุเป้าหมาย และยังสื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการอีกด้วย
แบรนด์ต่าง ๆ เช่น Yahoo และ Cadbury ใช้สีม่วงเป็นพื้นหลังสำหรับโลโก้บริษัท ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ทันที
โดยที่ Yahoo สื่อสารถึงปัญญาและความรู้ ในส่วนของ Cadbury ผู้ก่อตั้งเคยถวายผลิตภัณฑ์ของตนให้กับสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งประเทศอังกฤษ จึงทำให้แบรนด์มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความหรูหรา
สีขาว-ดำสุดล้ำลึก
บ่อยครั้งที่สีขาว-ดำ ถูกใช้คู่กัน เพราะสีดำให้ความรู้สึกลึกลับและสีขาวให้ความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อนำมาผสมกันทำให้เกิดความรู้สึกสมดุล
Cartoon Network ใช้สีดำและสีขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างโลโก้ที่มีสมดุลที่ดี คล้ายกับยินหยางที่สื่อสารถึงแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ในเรื่องของอารมณ์และความหมายเบื้องหลัง สีทุกอย่างบนโลกสามารถสื่อสารและสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้มากมาย และบ่อยครั้งที่เราเห็นว่าสีที่เรียบง่ายจะสร้างผลกระทบได้ดีกว่าสีที่ฉูดฉาดเยอะเกินไป ถ้าถูกใช้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แบรนด์ได้รับการจดจำได้เป็นอย่างดี
อย่าลืม “Simple is the key” หรือความเรียบง่ายคือสิ่งสำคัญ (ไม่มีใครสามารถจำโลโก้ที่อัดแน่นไปด้วยสีและความซับซ้อนได้) ถ้าให้ดีเลือกชุดสีแค่ 1-2 สีก็เพียงพอแล้ว
บทความโดย : Brand Colors: The How and Why of Picking the Right Colors
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24
Date: 10/06/2567