RGB และ CMYK คือโหมดการใช้สีที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานที่แตกต่างกันตามแต่ละวัตถุประสงค์โดยเฉพาะ เป็นสิ่งที่นักออกแบบกราฟิกและครีเอทีฟโฆษณาใช้งานเป็นประจำ ซึ่งแต่ละโหมดสีก็จะมีวัตถุประสงค์การใช้งานแตกต่างกันไป ค้นพบวิธีการใช้งานโหมดสีทั้งสองอย่างให้เหมาะสมกับงานของคุณได้ที่นี่!
การเลือกใช้สี RGB และ CMYK
RGB ที่โมเดลสีที่ใช้ในการออกแบบดิจิทัล โดยเกิดขึ้นจากการผสมผสานสีระหว่างสีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue)
วัตถุประสงค์หลักของการใช้โมเดลสี RGB ก็คือใช้กับหน้าจอและอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์มือถือ ทีวี จอดิจิทัล ฯลฯ
CMYK คือโมเดลสีที่ใช้ในงานตีพิมพ์เป็นหลัก เกิดขึ้นจากการผสมสีฟ้า (Cyan) สีม่วงแดง (Magenta) สีเหลือง (Yellow) และสีดำ (Black)
วัตถุประสงค์ของการใช้โมเดลสี CMYK ก็คือการสร้างสีในวัสดุที่ใช้ตีพิมพ์ เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ให้ได้สีที่ถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน
บทบาทหลักของสีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน
สีแดง เขียว น้ำเงิน คือแม่สีที่มีบทบาทสำคัญต่อโมเดลสี RGB และ CMYK การใช้โหมดสี RGB จะใช้กับจอที่แสดงผลเป็นดิจิทัลเท่านั้น ช่วยให้เกิดช่วงสีที่หลากหลายจากการปรับใช้ปริมาณสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้เกิดสีใหม่ ๆ ขึ้นมาบนหน้าจอ
ส่วนโมเดลสี CMYK จะถูกใช้ในการตีพิมพ์เท่านั้น ซึ่งสีหลัก ๆ จะเกิดจากสัดส่วนสีที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดเฉดสีที่แตกต่างกันระหว่าง สีฟ้า ม่วงแดง และเหลือง ตามด้วยสีดำที่เติมลงไปเพื่อให้เกิดความลึกและเกิดเงา
ซึ่งทั้งสองอย่างถูกใช้แยกเพื่อความแม่นยำของสีที่ถูกวางลงไปในชิ้นงานดิจิทัลและงานตีพิมพ์
สี RGB และ CMYK ส่งผลต่องานออกแบบกราฟิกอย่างไร?
ถ้าคุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง RGB และ CMYK สามารถช่วยให้งานออกแบบของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แบรนด์มีความน่าดึงดูดมากขึ้น องค์ประกอบแต่ละส่วน เช่น สี ตัวอักษร เลย์เอาต์ และการจัดวาง มีบทบาทเฉพาะตัวที่ส่งผลต่อองค์รวมของงานกราฟิกอย่างมาก
สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องตั้งค่าไฟล์งานออกแบบตั้งแต่ต้นก่อนลงมือทำ เช่น ไฟล์ RGB ไม่เหมาะกับงานตีพิมพ์ คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเป็น CMYK ซึ่งอาจทำให้สีของงานคุณเปลี่ยนไป
สีเติมแต่ง (Additive) vs. สีหักลบ (Subtractive)
ที่มาของสีเติมแต่งและสีหักลบ ที่มาของชื่อก็คือการสังเกตวิธีที่แสงกระทำต่อสีขาวและสีดำ
RGB เริ่มต้นจากสีดำ และเพิ่มระดับแสงสีแดง เขียว และน้ำเงินในระดับต่าง ๆ จะทำให้สีดำกลายเป็นสีอื่น ๆ ตามต้องการ ถ้าเราเพิ่มสีแดง เขียว และน้ำเงินลงไปในปริมาณที่เท่ากัน ผลที่ได้ก็คือแสงสีขาว
ตัวอย่างที่คุณเห็นอยู่ทุกวันก็คือ “ดวงอาทิตย์”
CMYK เกิดจากการใช้สีฟ้า สีม่วงแดง สีเหลือง และสีดำในปริมาณที่กำหนดลงไปในกระดาษสีขาว เช่น กระดาษ ผ้า ฯลฯ ยิ่งคุณใช้หมึกมากเท่าไหร่ ภาพของคุณจะยิ่งเข้มและมืดลง ทำให้สีแดง เขียว และน้ำเงินถูกสะท้อนออกไป
ถ้าคุณรวมสีฟ้า ม่วงแดง และสีเหลืองในปริมาณที่เท่ากัน จะได้สีดำสนิทที่ไม่สะท้อนสีอะไรออกมาเลย
สรุปเรื่อง RGB vs. CMYK
ถ้าต้องตัดสินใจว่าระหว่าง RGB และ CMYK ท้ายที่สุดแล้วจะใช้แบบใด ให้เลือกจากวัตถุประสงค์และบริบทการนำไปใช้งานของโปรเจกต์นั้น ๆ
RGB คือโหมดสีที่เหมาะกับแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เนื่องจากสามารถสร้างสีที่สดใสได้หลากหลาย
CMYK คือโหมดสีที่เหมาะกับงานตีพิมพ์บนวัตถุต่าง ๆ เช่น ใบปลิว หนังสือพิมพ์ เสื้อ แก้ว ฯลฯ
ทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ไว้ให้ดี แล้วงานของคุณจะออกมาดูดีทุกชิ้นอย่างแน่นอน
บทความโดย : RGB vs. CMYK: Which Color Mode Is Best for Your Project?
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24