เทรนด์การออกแบบในปีที่ใกล้มาถึงนี้จะยกระดับงานออกแบบให้ทะลุขีดจำกัด แหกทุกกฎเกณฑ์ ที่เต็มไปด้วยความเซอร์เรียลและล่องลอยอยู่ในความฝัน
ในขณะที่โลกเราเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วหลังเหตุการณ์โรคระบาด งานออกแบบก็เปลี่ยนไปมากกว่าที่เราเคยพบเจอเช่นกัน อาจจะเพราะแพลตฟอร์มอย่าง TikTok เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตเรา ทำให้ทุกคนเกิดความเร่งรีบในการเสพคอนเทนต์มากจนเกินไปก็เป็นได้
ยิ่งสมองของเรารับข้อมูลในแต่ละวันมากเกินไป ยิ่งทำให้เราเริ่มสนใจคอนเทนต์ประเภท เฉดสีรุ้ง เรโทรย้อนยุค งานสามมิติ สีที่หนักไปทางเข้มและงานเซอร์เรียลมากเท่านั้น
เทรนด์การออกแบบในทุกปี ทำหน้าที่ดึงดูดความสนใจบางอย่างเพื่อดึงเราเข้าไปพบกับประสบการณ์ใหม่ ไม่ว่าคุณจะเป็นกราฟิกดีไซน์ นักออกแบบ นักการตลาดหรือใดๆก็ตาม สามารถนำเทรนด์ในปี 2023 นี้ไปประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
งานสามมิติ
นี่คือเทรนด์ที่เป็นกระแสมาแรงประจำปี 2023 เพราะการมาถึงของ Metaverse เราจะเห็นว่าสื่อโฆษณามักใช้งานสามมิติในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริง และก้าวข้าวขีดจำกัดบางอย่างในการทำคอนเทนต์ไปเลยก็มี
งานออกแบบสไตล์แฟลตเรโทร
เป็นการผสมผสานสุดโดดเด่นของงานภาพสไตล์เรโท ที่ให้ความรู้สึกคิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่กลับกลายเป็นกระแสนมาแรงในปี 2022 ยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเล่นกับเรื่องของสันติภาพ ความรักและใช้สีสดๆ
หวนคืนถึงยุค 60’s และ 70’s ใช้ชุดสีสดสว่างๆ ส่วนใหญ่ภาพที่ถูกออกแบบจะมีข้อความปรากฎอยู่มากมาย เรื่องของการใช้ฟอนต์ตัวอักษรก็มีส่วนในการออกแบบ มีการไล่สีที่ไม่กลมกลืน ปล่อยให้เห็นขอบการแบ่งชั้นสี เหมาะกับการใช้เล่นกับแคมเปญการตลาดที่สนุกสนาน วัยรุ่นๆ
โลกเซอร์เรียล
ปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์และโลกเสมือนจริงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบนโลกใบนี้ แต่จิตใจมนุษย์นั้นก็เริ่มเอนเอียงไปฝั่งโลกเสมือนจริงเข้าทุกที ทำให้งานออกแบบแนวเซอร์เรียลฮิตติดเทรนด์ขึ้นมา
เทรนด์นี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เป้าหมายมีเพียงแค่นำทุกคนเข้าสู่โลกแฟนตาซี ไม่ว่าจะเป็นการหลีกหนีความเป็นจริงหรือสร้างสิ่งใหม่ เทรนด์นี้เกี่ยวข้องกับความขี้เล่น ความไม่สมมาตร หลุดโลก แหกกฎเกณฑ์ทั้งหมดที่มนุษย์เคยเข้าใจ
รวมถึงมีการใช้ชุดสีที่ไม่ค่อยมีคนใช้ เพื่อสร้างองค์ประกอบบางอย่างที่มนุษย์ไม่คุ้นเคยขึ้นมาอีกด้วย
โหมดกลางคืน
เทรนด์นี้มาแรงสำหรับสายออกแบบ UX/UI ในปีหน้า ปัจจุบันหลายคนเริ่มใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โหมดกลางคืนเริ่มมีบทบาทจริงจังในทุกแพลตฟอร์ม
หลักๆก็คือช่วยให้ผู้ใช้งานสบายตา เหมาะกับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์เป็นระยะเวลานาน เราจะเห็นว่าหลายแบรนด์เริ่มมีโหมดกลางคืนให้ใช้กันแล้ว
ข้อความบิดเบี้ยว
เมื่อเร็วๆนี้เราจะเห็นว่าฟอนต์ serif เริ่มเข้ามามีบทบาทในธีมมินิมอลมากขึ้น ยิ่งในยุคนี้เราจะชอบเห็นคอนเทนต์ที่มีความสนุกสนานมากกว่าที่เคย นั่นหมายความว่าข้อความที่เราใส่เข้าไปก็ต้องบิดเบี้ยวและสนุกไปกับเราด้วย
เทรนด์นี้คือการบิดข้อความให้เบี้ยวไปมา ผสมองค์ประกอบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนให้เกิดขึ้นในภาพ หรือเราอาจจะใช้ฟอนต์อื่นมาบิดเบี้ยวให้เกิดความไม่เหมือนใครได้
คู่สีใหม่ๆ
ทุกอย่างในปี 2023 เกี่ยวข้องกับการแหกกฎการออกแบบทุกอย่าง หมายความว่าสีต่างๆก็สามารถนำไปจับคู่กับสิ่งที่ไม่เข้ากันได้เช่นกัน หลักๆเทรนด์นี้คือการนำสีที่ไม่น่าเข้ากันมาทำให้เข้ากัน ทดลองผสมสีมั่วๆอย่างตั้งใจเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่
สีมีความสำคัญเสมอในทุกการออกแบบ เนื่องจากสีแสดงถึงคอนเซปท์และองค์ประกอบอื่นๆที่ไม่สามารถแสดงออกได้ด้วยตัวเอง การจับคู่สีที่ไม่น่าเข้ากันได้สร้างประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์และเหนือจริงได้ เพื่อหลีกหนีคู่สีหลักที่แสนน่าเบื่อซ้ำซากที่ใช้กันมานาน
เทรนด์เหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนเราให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อออกไปหาโลกใบใหม่ การออกแบบจะกำหนดทิศทางของเราให้ไปสู่ช่วงเวลาใหม่ๆ แรงบันดาลใจใหม่ๆและอนาคตใหม่ๆของเรา