การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีควรผสมผสานความง่ายในการใช้งานและความสวยงามให้อยู่ด้วยกัน คือเรื่องสำคัญที่จะช่วยดึงผู้ใช้งานให้อยู่ในเว็บไซต์ของเรานานขึ้น และสามารถชักจูงให้ผู้เข้าชมเปลี่ยนไปเป็นลูกค้าของเราได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงความลับการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีว่าเป็นอย่างไร รวมถึงข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อคุณต้องจัดวางเลย์เอาต์ให้กับเว็บไซต์!

การออกแบบเว็บไซต์ที่ดีเป็นอย่างไร
สิ่งที่ทำให้การออกแบบเว็บไซต์ออกมาดีก็คือ การผสมผสานระหว่างการใช้งานและความสวยงามอย่างลงตัว ทำให้เกิดเว็บไซต์ที่สวยงามและใช้งานง่าย ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของการสร้างเว็บไซต์ก็คือ การทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เก็บข้อมูลได้ และสามารถเข้าถึงทุกบริการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ด้วยเหตุนี้ก่อนจะสร้างเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตามจะต้องมีแผนผังความคิด (Mind map) เพื่อสร้างเส้นทางการใช้งานของลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นถึงจะลงมือทำให้แผนผังนั้นเป็นจริง เพื่อให้ทุกอย่างในเว็บไซต์สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็อย่าขาดความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกสนุกสนานและอยากใช้งานเว็บไซต์นานขึ้น
สามารถนำแนวคิดการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีน่าสนใจมาใช้ได้มากมาย เช่น แอนิเมชั่น สี ประเภท กราฟิก ภาพถ่าย และองค์ประกอบเชิงโต้ตอบ อย่างปุ่มกดหรือปุ่มอีโมจิ เป็นต้น

กฎทั้ง 4 ของการออกแบบเว็บไซต์
- สามารถสร้างเส้นทางของผู้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพและราบรื่น นำไปสู่เป้าหมายที่ดำเนินการไว้ได้อย่างชัดเจน และจัดลำดับความสำคัญของการใช้งานได้ชัดเจน (UX)
- มีการกระตุ้นและการตอบโต้ที่น่าสนใจ (UI)
- ใช้อัตลักษณ์ของธุรกิจเข้าช่วยในการออกแบบเว็บไซต์ เช่น สี ฟอนต์ โลโก้ และรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับนโยบายองค์กร
- สามารถใช้งานทั้งบน PC และ Mobile phone ได้อย่างแม่นยำแม้จะอยู่ต่างแพลตฟอร์มและขนาดจอที่ต่างกัน
โดยหลักการออกแบบโดยใช้อัตลักษณ์อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สามารถนำมาใช้ได้ดังต่อไปนี้
9 เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน
1.พลังแห่งการใช้สี: PEDEN+MUNK (Agency/Portfolio)
เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอนี้ใช้แนวคิดที่สร้างสรรค์ โดยเน้นที่สีและฟอนต์ผสมผสานกับวิดีโอ มีการจัดลำดับภาพที่สนุกสนานและใช้คอนทราสต์สร้างความไม่น่าเบื่อให้กับผู้ชมตลอดทั้งเว็บไซต์
เว็บไซต์นี้ยังรองรับหลายแพลตฟอร์ม ทำให้เปิดในมือถือก็ดูได้อย่างราบรื่น

2.ภาพประกอบสุดแนว: Don’t Board Me (Pet Care Services)
เว็บไซต์สุดสร้างสรรค์ที่เกิดมาเพื่อมอบบริการดูแลสัตว์เลี้ยงครบวงจร ที่สำคัญสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่เข้ามาดูได้ด้วย มีการเลือกใช้ภาพประกอบแปลก ๆ ที่ประกอบด้วยสีชมพูและสีแดงติดเทรนด์ ทำให้ผู้ใช้มีอารมณ์ร่วมกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์
อีกทั้งยังเล่นกับระบบ FAQs แทนที่จะมอบข้อมูลที่มีตัวหนังสือล้วน เปลี่ยนให้ข้อมูลเหล่านั้นกลายเป็นภาพสีสันสดใสเพื่ออธิบายข้อมูลไปเลยเสียดีกว่า

3.ระบบ Interactive: LVMH Prize (eCommerce/Fashion)
จัดทำขึ้นโดยบริษัทระดับโลก Louis Vuitton เพื่อแสดงภาพงานออกแบบแฟชั่นใหม่ ๆ โดยศิลปินหน้าใหม่ และนำคอลเลกชันที่พึ่งปล่อยออกมาไปยังกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่
ซึ่งเว็บไซต์นี้ออกแบบโดยอ้างอิงจากงานประกวดงานแฟชั่น มีการนำหน้าของศิลปินเข้ามาเป็นองค์ประกอบและผสมผสานกับวิดีโอ มีการใช้ศิลปะสไตล์มินิมอลที่ดูสะอาดตา

4.เรียบง่ายมีประสิทธิภาพ: Nord Quantique
อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจไม่ใช่อุตสาหกรรมแรก ๆ ที่คุณจะนึกถึงเมื่อพูดถึงการออกแบบเว็บไซต์ แต่เลย์เอาท์ของ Nord Quantique กลับทำให้เราเห็นภาพของแบรนด์ชัดเจน มีข้อมูลชัดเจน สีสันสดใส อ่านง่ายแม่จะเป็นหัวข้อที่ซับซ้อนก็ตาม
มีการใช้ฟอนต์ Sans serif ที่สะอาดตา เด้ง Pop-up มาพร้อมข้อมูลขนาดย่อยและแอนิเมชั่นที่ละเอียด ทำให้ทราบเลยว่าเว็บไซต์ถูกออกแบบมาอย่างละเอียดและตั้งใจ

5.สวยงามและเรียบง่าย: Anai (Corporate/Manufacturing)
แนวคิดการออกแบบเว็บไซต์สไตล์มินิมอล สามารถนำไปใช้ได้ไม่รู้จบ เพราะสามารถสร้างความสงบได้ดั่งใจ ผสมผสานกับการใช้สีขาว-ดำ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ ทำให้บรรยากาศภาพรวมในเว็บไซต์มีความสงบสบายตา
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
แม้ว่าจะมีหลักการที่แน่นเป็นพื้นฐานกันอยู่แล้ว แต่ข้อผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้
- ใช้แอนิเมชัน Interactive หรือภาพเคลื่อนไหวเยอะเกินไป จนทำให้ผู้ชมเว็บไซต์เจ็บสายตา มีจุดเบี่ยงเบนเยอะจนมองไม่เห็นเป้าหมายหลักของหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ ทำให้คนหนีออกจากเว็บไซต์จนหมด
- เข้าถึงได้ยากและงานออกแบบไม่สวย อย่างการใช้คอนทราสต์จัดจนเกินไป ทำให้อ่านตัวหนังสือไม่ออก หรือสร้างไอคอนเมาส์ เมื่อนำไปวางลงบนภาพแล้วจะเปลี่ยนเป็นรูปอื่นทุกวินาที ทำให้คลิกยากเป็นต้น
- สร้างความรู้สึกไม่ทั่วถึงทั้งเว็บไซต์ ถ้าอยากให้เว็บไซต์สื่อสารออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรสร้างความสม่ำเสมอบริเวณหน้าเว็บไซต์ด้วยภาพ สี ฟอนต์ องค์ประกอบที่คล้ายคลึงกัน อย่าปล่อยบางส่วนขาดความสอดคล้องไป

6. เลือกฟอนต์ต้องให้โดน
แม้ว่าเว็บไซต์จะเขียนเนื้อหาได้ดี แต่ถ้าเลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านยากเกินไปในการออกแบบเว็บไซต์ของคุณ ผู้อ่านจะไม่สามารถรับข้อมูลได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งการกำหนดขนาดฟอนต์ (Font size) และการเว้นระยะห่างระหว่างบรรทัด (Line height) ให้เหมาะสม ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกให้กับการอ่านได้เช่นกัน
นอกจากนั้น การสร้างสโลแกนเด็ด ๆ ก็ต้องมาพร้อมกับฟอนต์ที่โดนใจ โดยการเลือกฟอนต์ที่ให้ Mood & Tone เดียวกันโทนสีของเว็บไซต์และรูปภาพ การใช้ฟอนต์ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ชม รายละเอียดเล็กๆ อย่างขนาดของฟอนต์ สี ความหนา เอียง และการจัดช่องไฟก็ล้วนส่งผลต่อ ‘ใจความ’ สำคัญที่จะสื่อออกไปค่ะ
7. โฟกัสเว็บไซต์บนมือถือเป็นอันดับแรก
ยุคที่สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต การออกแบบเว็บไซต์ปัจจุบันจึงถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปเป็นอันดับแรก ไม่ใช่เพียงเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้เข้าชม แต่ Mobile responsiveness ยังส่งผลต่อการจัดอันดับของ Google ด้วย
แม้ว่าการออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาในลำดับแรกๆ แต่เว็บไซต์ที่ดีนั้นควรถูกออกแบบมาให้สวยและใช้งานได้จริงทั้งแบบ Desktop และ Mobile เพราะในที่สุดแล้ว สิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเว็บไซต์เราสวยงามตอบโจทย์หรือไม่คือการใช้งานจริง
8. โหลดเว็บไซต์ต้องเร็ว
เนื่องจากผู้ใช้งานในปัจจุบันมีความอดทนน้อยลงในการรอคอยให้เว็บไซต์โหลด ดังนั้นการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีควรมีระยะเวลาโหลดที่รวดเร็ว ไม่เกิน 2-3 วินาที ทั้งนี้ ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงเพื่อให้การสร้างเว็บไซต์ของธุรกิจโหลดไวติดจรวจยิ่งขึ้น เช่น
- เลือกใช้รูปภาพและวิดีโอที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่จนเกินไป
- เลือกใช้ Web Hosting ที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อเว็บไซต์ของธุรกิจโหลดได้เร็วและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ Google นำเว็บไซต์ของธุรกิจไปจัดลำดับให้ขึ้นมาติดอยู่ในหน้าแรก ๆ ของการค้นหาบนกูเกิ้ลได้อีกด้วย
9. ข้อมูลการติดต่อต้องครบถ้วน
การมีข้อมูลช่องทางติดต่อที่ชัดเจน ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล ช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เป็นต้น จะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าร้านค้าของเรามีตัวตนอยู่จริง เพิ่มความน่าเชื่อถือ ให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายเมื่อสนใจในตัวสินค้า และเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาช่องทางการติดต่อได้อย่างสะดวกสบายเมื่อมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
เทรนด์การออกแบบเว็บไซต์ที่น่าสนใจในปี 2025
- กาารเข้ามาของ Chatbots และ AI
ในยุคที่ AI มาแรง เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการออกแบบเว็บไซต์สมัยใหม่ หนึ่งในนั้นคือการนำ Chatbots หรือระบบแชทอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ ที่จะคอยตอบคำถาม ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยประหยัดได้ทั้งเวลาและลดภาระงานของฝ่ายบริการลูกค้าได้มากทีเดียว
- Dark Mode
Dark Mode กลายเป็นฟีเจอร์จำเป็นของเว็บไซต์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากต้องการประสบการณ์การใช้งานที่สบายตาในที่มืด หรือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยดีไซน์ต้องคำนึงถึงการจัดวางองค์ประกอบที่เหมาะสม เช่น การใช้สี Contrast สูงเพื่อให้ข้อความอ่านง่าย การปรับภาพและไอคอนให้ไม่สะท้อนแสงรบกวนสายตา รวมถึงออกแบบให้ระบบเปลี่ยนโหมดอัตโนมัติตามเวลาหรือการตั้งค่าของอุปกรณ์ได้ ซึ่งจะช่วยลดการล้าสายตา
- การออกแบบที่เน้นไปในด้าน SEO-Optimized
การออกแบบเว็บไซต์ในปี 2025 จะผนวกเข้ากับ SEO อย่างแนบแน่น เพราะการดึง Traffic คุณภาพเข้ามายังเว็บไซต์คือก้าวแรกของ Conversion โดยนักออกแบบจะทำงานร่วมกับทีม SEO ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น โครงสร้าง URL ที่อ่านง่ายและเป็นมิตรต่อบอท การใช้ Schema Markup เพื่อแสดง Rich Snippet ในผลค้นหา หรือการออกแบบ Landing Page ที่ตอบคำถามผู้ใช้ได้ตรงจุดภายใน 3 วินาทีแรก ซึ่งส่งสัญญาณให้ Google คะแนนเว็บไซต์สูงขึ้น และดันให้ติดอันดับต้นๆ เพิ่มโอกาสถูกคลิกจากผู้ใช้
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่สวยและตอบโจทย์การใช้งาน
- Apple (apple.com) มีการออกแบบเว็บไซต์ที่มินิมอล เรียบหรู ใช้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูง มีระบบนำทางที่ใช้งานง่าย มีการเคลื่อนไหวของ UI ที่ลื่นไหล และยังมีการจัดวางคอนเทนต์ชัดเจน เน้นฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์
- Nike (nike.com) ใช้โทนสีและดีไซน์โมเดิร์น ดึงดูดสายตา ใช้ภาพเคลื่อนไหวและวิดีโอเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ พร้อมระบบฟิลเตอร์และการค้นหาสินค้าที่ใช้งานง่าย
- Tesla (tesla.com) ออกแบบเว็บไซต์ให้เรียบง่าย แต่ล้ำสมัยและสะอาดตา ใช้ภาพยนตร์และโมชั่นกราฟิกเพื่อแสดงผลิตภัณฑ์อย่างโดดเด่น และระบบการจองและปรับแต่งรถที่ใช้งานได้ง่าย ๆ
- Spotify (spotify.com) ออกแบบเซ็บไซต์ให้มีสีสันที่สดใส ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย มีระบบ UX ที่ใช้งานง่าย ทั้งเดสก์ท็อปและมือถือ มีการใช้ Typography และ Iconography ที่ช่วยให้อ่านง่าย พร้อมระบบ AI ที่ช่วยจัดเพลย์ลิสต์เพลงให้ถูกใจคุณ
- Airbnb (airbnb.com) หน้าแรกของเว็บไซต์ใช้ภาพถ่ายสถานที่พักสวยงามและมีความละเอียดสูง มีการจัดวาง UI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ให้ใช้งานง่าย พร้อมระบบค้นหาและฟิลเตอร์ที่ช่วยให้การจองที่พักสะดวกยิ่งขึ้น

ทุกแนวคิดที่เรากล่าวไปสามารถนำไปใช้งานได้จริง เพียงแค่ต้องนำไปวางแผนและค่อย ๆออกแบบไปตามขั้นตอน แล้วผลลัพธ์ที่น่าทึ่งจะปรากฎต่องานของคุณอย่างแน่นอน
บทความโดย : Website Design Ideas, Examples, and Inspiration
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24