มาเรียนรู้วิธีการสร้างพอร์ตโฟลิโอให้มีสไตล์และทรงประสิทธิภาพไปด้วยกันกับเรา ด้วยคู่มือที่คัดสรรเทคนิคมาจากมืออาชีพภายในเว็บไซต์ของ Shutterstock
คุณ Grace Fussell ผู้เขียนคู่มือการทำธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ “PASSIVE ACTIVE CREATIVE” ได้มาแบ่งปันเคล็ดลับของเธอในการสร้างพอร์ตโฟลิโอ ให้ทุกคนที่เห็นต้องประทับใจและมีประสิทธิภาพเมื่อต้องใช้ยื่นสมัครงานหรือสมัครเรียนต่อไป
การสร้างพอร์ตโฟลิโอโดยไม่มีประสบการณ์
ในคู่มือ “PASSIVE ACTIVE CREATIVE” จะโฟกัสไปที่ผู้ทำธุรกิจแบบคนเดียว (Solopreneurs) ว่าพวกเขาสามารถสร้างธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างไร และหนึ่งในคำแนะนำสุดฮิตที่ฉันชอบบอกพวกเขาก็คือ การมีพอร์ตโฟลิโออันยอดเยี่ยมสำหรับแนะนำตัวในช่วงต้นอาชีพของคุณ
ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นนักออกแบบกราฟิกมือใหม่หรือเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบไม่มีใครสอน คุณก็สามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอได้โดยการสร้างโจทย์ให้กับตนเอง
เช่น คุณชอบสัตว์หรือไม่? ลองสร้างแบรนด์สำหรับสถานสงเคราะห์สัตว์หรือโรงพยาบาลสัตว์ แต่ถ้าคุณชอบร้านอาหาร ก็ลองสร้างตำราอาหารเพื่อวัดทักษะการออกแบบของคุณ
ประโยชน์จากการฝึกตนเองมีมากมาย นอกเหนือจากได้ทักษะการออกแบบเพิ่มแล้วยังมีผลงานเพิ่มขึ้นในพอร์ตโฟลิโอด้วย ถ้าคุณสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง พอร์ตโฟลิโอของคุณก็จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้น
ทำไมทุกคนต้องมีพอร์ตโฟลิโอสำหรับงานกราฟิก
พอร์ตโฟลิโอสำหรับการออกแบบกราฟิกนั้นมีมานานหลายทศวรรษ และปัจจุบันก็ยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงทักษะและประสบการณ์ต่อผู้จ้างงานและลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
“แม้ปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอแบบดิจิทัลจะกลายเป็นที่นิยมมากกว่า แต่การมีพอร์ตในลักษณะสิ่งพิมพ์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ใช้ส่งเอเจนซี่ เพราะในอีเมลของแต่ละคนก็คงเต็มไปด้วยพอร์ตดิจิทัลจนท่วมและหาไม่เจอ พอร์ตที่เป็นลักษณะสิ่งพิมพ์จะโดดเด่นกว่าเจ้าอื่น”
พอร์ตโฟลิโอถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักออกแบบกราฟิก เพราะสามารถใช้แสดงงานที่คุณทำและปรากฎออกมาเป็นภาพ ไม่เหมือนกับส่งเรซูเม่หรือ CV
ควรใส่อะไรลงไปในพอร์ตโฟลิโองานกราฟิก
พอร์ตโฟลิโอควรชี้นำผู้ชมไปตามลำดับจากงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของคุณ ลากไปยังงานอื่น ๆ ถัดไป แสดงให้เห็นทักษะที่หลากหลายตลอดทั้งงาน
คุณควรนำงานที่ดีที่สุดของคุณใส่ในพอร์ต ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งหมดเพราะจำนวนเยอะใช่ว่าจะดีกว่าเสมอไป ซึ่งสิ่งที่ควรใส่มีดังนี้
1.ชีวประวัติแนะนำตัวโดยย่อ เช่น ภูมิหลัง การศึกษา ประสบการณ์ และความสนใจเฉพาะของคุณในด้านการออกแบบ รายละเอียดส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง “ฉันชอบถักเสื้อจั๊มเปอร์ให้สุนัขใส่ช่วงวันหยุด” เป็นต้น สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความน่าจดจำได้ดี
2.คัดสรรผลงานที่ดีที่สุดของคุณใส่เข้าไปประมาณ 3-5 ชิ้น แสดงให้เห็นทักษะที่หลากหลายและประสบการณ์ที่เผชิญมา
3.สร้างลำดับการเล่าเรื่องให้เห็นภาพว่าคุณพัฒนางานอย่างไร ตลอดชีวิตของคุณผ่านอะไรมาและนำคุณมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
4.บทสรุปโดยรวมสั้น ๆ ว่าขอบคุณที่ให้ความสนใจและใส่รายละเอียดติดต่อกลับ ระบุให้ชัดเจนว่าพวกเขาจะติดต่อคุณกลับได้อย่างไร
ผู้อ่านควรเข้าใจพอร์ตโฟลิโอของคุณได้ภายใน 5-10 นาที หรือน้อยกว่านั้น เพราะนายจ้างบางรายอาจมีเวลายุ่งจนอ่านพอร์ตของคุณได้เพียง 3 หน้าแรกเท่านั้น
นอกจากนี้คุณควรทราบว่าผู้ให้บริการอีเมลบางรายไม่อนุญาตให้อัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ ดังนั้นหน้าพอร์ตของคุณควรมีไม่เกิน 8-15 หน้า
วิธีสร้างพอร์ตโฟลิโองานกราฟิกแบบง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอน
1.หาแรงบันดาลใจ
ก่อนจะสร้างพอร์ตของคุณเอง คุณควรมองหาแรงบันดาลใจก่อนว่าดีไซน์แบบใดที่ถูกใจคุณที่สุด จากนั้นหาวิธีสร้างพอร์ตให้โดดเด่นจากคนอื่น ๆ จากไอเดียเหล่านั้น
นักออกแบบกราฟิกใช้เทคนิคที่หลากหลายในการสร้างพอร์ต ตั้งแต่ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก วิดีโอ และแอนิเมชั่น
2.ใช้เทมเพลตพอร์ตโฟลิโอ
ไม่ว่าคุณจะสร้างเองหรือใช้เทมเพลตคนอื่น ก็ถือว่าเป็นต้นแบบที่ดีในการสร้างพอร์ต โปรแกรมอย่างเช่น Adobe InDesign ช่วยให้คุณสามารถสร้างเอกสารหลายหน้าได้ในคราวเดียว ซึ่งกราฟิกหลายคนนิยมใช้ และมีเทมเพลตให้ใช้มากมายครอบคลุมทุกรูปแบบ
3.สร้างพอร์ตโฟลิโอแบบพิมพ์และดิจิทัล
อย่างที่เรากล่าวไปตั้งแต่ต้นว่าการมีพอร์ตโฟลิโอทั้งสองรูปแบบทั้งสิ่งพิมพ์และดิจิทัลมีข้อดีหลายประการ ช่วยให้การนำเสนอผลงานของคุณมีความหลากหลายและเต็มประสิทธิภาพ
การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวจะต้องมีพอร์ตโฟลิโอและเรซูเม่ เพราะการคุยงานถ้ามีสิ่งที่จับต้องได้ขณะพูดคุยจะเห็นภาพมากกว่า โดยเฉพาะงานออกแบบที่เน้นการใช้วัสดุ
แต่ถ้าต้องเป็นสไตล์ดิจิทัล การออกแบบสไตล์มินิมอลก็ยังคงได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพ การใช้สีและรูปภาพมาเกินไปอาจทำให้คนสัมภาษณ์ดูไม่รู้เรื่อง
การสร้างเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์การโชว์ผลงานอย่างเต็มที่ แต่คุณจะต้องมีประสบการณ์ในการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยระดับหนึ่ง
4.ปรับแต่งรูปภาพและคำอธิบายให้ชัดเจน
การออกแบบกราฟิกเป็นคำพูดกว้าง ๆ ที่ครอบคลุมทั้งการพิมพ์ การจัดวาง ภาพถ่าย ภาพวาด วิดีโอ และอาจรวมถึงแอนิเมชั่น เมื่อคุณมีผลงานที่หลากหลาย การเรียงลำดับรูปภาพและคำอธิบายที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องสำคัญ
คุณจะต้องใช้เวลาดูผลงานที่ผ่านมาและคัดสรรรูปภาพที่ดีที่สุดจากที่คุณมี เพื่อนำมาใส่ในพอร์ตโฟลิโอ ให้ตั้งเป้าหมายไปที่ภาพหลักหนึ่งภาพและใส่ภาพประกอบเสริมประมาณ 5 ภาพเป็นตัวขยาย ให้ผู้สัมภาษณ์เห็นขั้นตอนความคิดและผลลัพธ์ของผลงาน
สามารถใช้การสเก็ตช์เบื้องต้นและมูดบอร์ดควบคู่ไปกับการออกแบบที่มีรายละเอียดมากขึ้น เพื่อสื่อสารกระบวนการออกแบบให้กับผู้ฟังอย่างเป็นระบบ เพราะบริษัทส่วนใหญ่สนใจว่าคุณกำหนดแนวคิดในการออกแบบอย่างไร พอ ๆ กับผลลัพธ์ในตอนสุดท้าย
อย่าลืมว่าแม้งานกราฟิกจะเน้นเรื่องภาพเป็นหลัก แต่คำอธิบายหรือประวัติสั้น ๆ ของงานก็ต้องใส่เข้าไปด้วย หากคุณไม่ถนัดเรื่องเขียนก็อย่าได้กังวล เพราะผู้ชมมักอยากเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังดู แค่ใส่ข้อความธรรมดา ๆ และอย่าลืมเช็คตัวสะกดอย่างสม่ำเสมอ
5.พอร์ตโฟลิโอต้องสะอาดและมินิมอล
ท้ายที่สุดแล้ว พอร์ตโฟลิโอที่ประสบความสำเร็จคือสิ่งที่โชว์ความสามารถของคุณทั้งหมดออกมาอย่างเป็นระบบ ดังนั้นพอร์ตที่ดูสะอาดตาและเรียบง่ายอ่านคล่องจึงช่วยให้คุณโดดเด่นอย่างแท้จริง
ให้คุณสังเกตเลย์เอาต์การวางงานพอร์ตโฟลิโอให้ดี เหมือนกับคุณกำลังเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์โชว์งานศิลปะ เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งเหยิงในการอ่าน
ควบคุมพอร์ตโฟลิโอของคุณให้ดี สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มีมานานหลายศตวรรษ ไม่น่าแปลกใจที่พอร์ตสไตล์มินิมอลจะเป็นที่นิยมที่สุด เพราะสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและนายจ้างในระยะเวลาที่สั้น
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถพิชิตการสัมภาษณ์ได้แล้ว!
บทความโดย : The Complete Guide to Building Your Graphic Design Portfolio
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24