เรียนรู้ถึงแก่นการใช้ภาพสต็อกในหลายแพลตฟอร์มอย่างไรให้ถูกกฎหมาย จากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของ Shutterstock ที่จะให้ความรู้กับคุณแบบเคลียร์ชัดจบในที่เดียว
คลังเนื้อหาของ Shutterstock ที่มีมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นภาพ วิดีโอ เวกเตอร์ เพลง และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้จินตนาการของคุณเป็นไปได้อย่างไม่รู้จบ คุณสามารถนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ตราบใดที่คุณเข้าใจถึงหลักสิทธิ์การใช้งานของสิ่งเหล่านี้
โชคดีที่สิทธิ์การใช้งานภาพเหล่านี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายเกินกว่าที่คุณคิดไว้
เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจทุกขนาด ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์กับแบรนด์ของพวกเขาเอง เราจึงขอสัมภาษณ์คุณ William Clark ตำแหน่งผู้ช่วยที่ปรึกษาทั่วไปของ Shutterstock ในด้านการออกสิทธิ์ใช้งาน เกี่ยวกับรายละเอียดวิธีการใช้ภาพสต็อกอย่างชัดเจนและปลอดภัย
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจประเภทใด ขนาดใดก็ตาม นี่คือรายละเอียดการใช้ภาพสต็อกที่คุณต้องรู้ เพื่อให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ
คุณสามารถใช้ภาพสต็อกกับงานเชิงพาณิชย์ของคุณได้อย่างปลอดภัย เพียงแค่ต้องซื้อสิทธิ์การใช้งานที่ถูกต้อง
มาทำความเข้าใจสิทธิ์เบื้องต้นกันเลย
Royalty Free (RF) สิทธิ์การใช้งานที่อนุญาตให้คุณใช้ภาพสต็อกในทุกแพลตฟอร์มได้ตลอดไป
เมื่อก่อนจะมีสิทธิ์การใช้งานที่เรียกว่า “right-managed (RM)” ผู้ซื้อภาพสต็อกจะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้งานตามแต่ละกรณี
- ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการใช้ภาพไปขึ้นบนบิลบอร์ดเป็นระยะเวลา 2 เดือน คุณก็จะต้องจ่ายเงินตามระยะเวลาดังกล่าว
- พอสิ้นสุดระยะเวลาแล้ว สมมุติว่าผู้ใช้งานภาพนี้ก็ต้องการใช้งานภาพต่อในแคมเปญที่ขึ้นเว็บไซต์ไปทั่วโลกระยะเวลาตลอดทั้งปี เขาจะต้องเจรจาเรื่องการใช้งานภาพใหม่ รวมถึงต้องจ่ายเพิ่มในส่วนนั้นด้วย
แต่ Royalty free นั้นแตกต่าง เพราะคุณเพียงแค่จ่ายเงินเพียงครั้งเดียว ผู้ซื้อก็สามารถนำภาพเดียวกันไปใช้หลายแพลตฟอร์มได้ตลอดไป เช่น โซเชียลมีเดีย สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
คุณ Clark กล่าว “สิทธิ์การใช้งานแบบ Royalty free มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก และให้เกิดการใช้งานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นหนึ่งในแนวทางที่เหมาะกับทุกคน ซึ่งเน้นความเรียบง่ายและรวดเร็ว ดีกว่าต้องมาเจรจาทำสัญญาใหม่ทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องน่าปวดหัวทุกครั้งไป
สิทธิ์การใช้งานเหล่านั้นแตกต่างกันอย่างไร?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น สิทธิ์การใช้งานแบบ Royalty free นั้นมีหลากหลาย ซึ่งจะมีวิธีการใช้งานและข้อจำกัดบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อที่จะได้ใช้ภาพสต็อกอย่างถูกกฎหมาย
สิทธิ์การใช้งานแบบ Standard
ถ้าคุณซื้อสิทธิ์การใช้งานแบบ Standard จาก Shutterstock คุณสามารถใช้งานบนเว็บไซต์โฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น อีเมล และโซเชียลมีเดียได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้ในสื่อสิ่งพิมพิ์ที่มียอดพิมพ์ไม่เกิน 500,000 ชิ้นหรือน้อยกว่า รวมถึงในงานผลิตภาพยนตร์หรือโฆษณาที่งบไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐได้
สิทธิ์การใช้งานแบบ Enhanced
ถ้างานเชิงพาณิชย์ของคุณมีงบเกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต้องมีการตีพิมพ์เกิน 500,000 ชิ้น คุณจะต้องเลือกสิทธิ์การใช้งานประเภท Enhanced
ซึ่งสิทธิ์การใช้งานแบบ Enhanced อนุญาตให้คุณนำภาพสต็อกไปใช้ผลิตสินค้าได้ (เช่น เสื้อยืด กระเป๋า หรือสินค้าขายปลีกอื่น ๆ) รวมถึงการนำไปใช้ตกแต่งสถานที่เชิงพาณิชย์ต่าง ๆ ทั้งสองสิ่งที่กล่าวไปคุณไม่สามารถทำได้ภายใต้สิทธิ์การใช้งานแบบ Standard
สิทธิ์การใช้งานแบบ Premier
สิทธิ์การใช้งานแบบ Premier จะปลดล็อกสิทธิประโยชน์ให้คุณมากมาย ที่ดีกว่าสิทธิ์การใช้งานอื่น ๆ ก็คือคุณมีสิทธิ์ใช้งานผลงานที่เป็น “Sensitive use” ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้กับงานที่มีบริบทด้านความรุนแรง เนื้อหาเฉพาะผู้ใหญ่ หรือเนื้อหาใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งได้ เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น โฆษณาบุหรี่หรือการเมือง บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยาจะต้องซื้อสิทธิ์ใช้งานแบบ Premier เพื่อให้ได้สิทธิ์ใช้งานภาพสต็อกในคอนเทนต์โปรโมทผลิตภัณฑ์ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดว่าบุคคลในภาพเป็นโรคอยู่ก็ได้ การเมืองก็เช่นกันเพราะอาจสร้างเข้าใจผิดในเรื่องการเมืองให้บุคคลในภาพได้เลย
เราไม่อนุญาตให้มีการใช้ภาพสต็อกในผลงานที่มีความเสี่ยงเรื่อง “Sensitive use” ในสิทธิ์แบบ Standard และ Enhanced โดยเด็ดขาด
ที่สำคัญก็คือสิทธิ์การใช้งานแบบ Premier ให้สิทธิ์คุณเข้าถึงแพลตฟอร์มของ Shutterstock ระดับ Enterprise ซึ่งอนุญาตให้หลาย ๆ คนในองค์กรของคุณเข้าถึงรูปภาพได้พร้อมกัน ทำงานร่วมกันในเวลาเดียวกัน แถมยังมีวงเงินประกัน (Indemnification) แบบไม่จำกัดจำนวนเงินครอบคลุมไว้ด้วย ซึ่งเราจะพูดถึงระบบนี้ภายหลัง
ถ้าฉันต้องการใช้ภาพ Royalty free ทำโลโก้จะต้องทำอย่างไร?
คุณ Clark กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่คุณไม่สามารถทำได้แม้จะซื้อสิทธิ์การใช้งานที่ดีที่สุดมาแล้วก็ตาม นั่นก็คือการนำภาพสต็อกไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของโลโก้หรือเครื่องหมายการค้า
“การใช้ภาพสต็อกในเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ จะสร้างความเข้าใจแก่ผู้ที่พบเห็นที่เรียกว่า “Secondary meaning” (ความหมายแฝง) หมายความว่าภาพที่ถูกใช้ในการสร้างโลโก้ให้บริษัทใด ๆ ก็ตาม ภาพนั้นจะติดภาพจำของบริษัทนั้นไปโดยปริยาย”
“สิ่งนี้สร้างข้อขัดแย้งในด้านกฎหมายทั่วไป และสิทธิ์การใช้งานของ Shutterstock รวมถึงอาจสร้างปัญหาให้เหล่าศิลปินของเราด้วย เพราะฉะนั้นการใช้ภาพสต็อกสร้างโลโก้และเครื่องหมายการค้า จะต้องขอสิทธิ์ในรูปแบบ “Exclusive product” เท่านั้น”
วิธีก็คือคุณต้องติดต่อ Number 24 เพื่อพูดคุยความเป็นไปได้ในการซื้อภาพเหล่านั้นแบบ Buyout เฉพาะเจาะจง จากนั้นพวกเราจะติดต่อผู้ถือครองสิทธิ์รูปภาพสต็อกนี้ในนามของคุณ
Shutterstock Enterprise อนุญาตให้ผู้ใช้งานหลายคน ดาวน์โหลดและใช้งานภาพสต็อกได้พร้อมกัน
ตามที่คุณ Clark กล่าวไว้ก็คือ ผู้ซื้อมีความเข้าใจผิดบ่อยครั้งในเรื่องการเข้าถึงภาพสต็อก เพราะบัญชีแบบ “Single-seat (ผู้ใช้งานบุคคลธรรมดา)” สามารถเข้าใช้งานได้เพียงคนเดียวต่อบัญชีเท่านั้น
“มีองค์กรใหญ่ที่มีทีมครีเอทีฟไม่กี่เจ้า ที่ใช้สิทธิ์ใช้งานแบบ Single-seat ซึ่งการทำแบบนี้คุณจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากสิทธิ์การใช้งานที่คุณซื้อไว้ และอาจส่งผลให้สิทธิ์ที่ซื้อไว้เป็นโมฆะ มันทำให้คุณเปลืองเงินอย่างไร้เหตุผล”
ทางแก้ปัญหาง่าย ๆ ก็คือ “หากคุณทำงานร่วมกับทีมหรือเอเจนซี่องค์กรขนาดใหญ่ คุณควรทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์ม Shutterstock’s Enterprise ที่ทุกคนสามารถเข้าใช้งานบัญชีเดียวกันได้พร้อมกัน สามารถแบ่งปันภาพที่ต้องการภายในองค์กรได้
องค์กรใหญ่ ๆ ที่ใช้งานเป็นประจำก็คือ BBDO และ National Geographic เพื่อที่พวกเขาสามารถจัดการเรื่องการใช้ภาพต่าง ๆ ที่มีความซับซ้อนได้
ภาพสต็อกแบบ Editorial จะต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์การให้ข้อมูลหรือการศึกษาเท่านั้น
ในเว็บไซต์ของ Shutterstock จะมีภาพที่ระบุไว้อยู่ว่า “Editorial Use Only” ซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ เช่น เอาไปใช้ในงานการตลาด หรืองานขายผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นต้น รูปภาพเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการให้ข้อมูลและการศึกษา เช่น บทความข่าว หรือเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ที่ไม่ใช่การโฆษณา
ภาพ Editorial only อาจมี:
– บุคคลที่มีเอกลักษณ์จดจำได้ ที่ไม่ได้เซ็นใบอนุญาตให้เผยแพร่ (ถ้ามีเอกสารใบนี้สามารถนำผลงานไปใช้เชิงพาณิชย์ได้)
– มีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าอยู่ในภาพ ถ้าไม่มีใบอนุญาตเผยแพร่ก็นำมาใช้เชิงพาณิชย์ไม่ได้
– อสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว เช่น บ้าน ตึก ที่อยู่อาศัย หรือธุรกิจร้านค้า สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเผยแพร่เช่นกัน
ถ้าคุณต้องการใช้ภาพสต็อกอย่างถูกกฎหมาย กฎข้างต้นคุณต้องเคยผ่านตามาบ้างอย่างแน่นอน ซึ่งแน่นอนว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้บ้างตามสถานการณ์
คุณ Clark กล่าว “ทีมสนับสนุนการใช้งานเชิงพาณิชย์ของเรา มีความเชี่ยวชาญการสนับสนุนลูกค้าที่มีความต้องการใช้ผลงานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม สามารถช่วยตรวจสอบและอนุมัติให้ใช้ทางกฎหมายได้”
“ในกรณีนี้ ทีมงานของเราจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมว่าคอนเทนต์แบบใดถึงจะใช้ได้ เมื่อประเมินความเสี่ยงแล้วเราจะแนะนำ Asset Assurance ให้กับลูกค้า โดยที่ Shutterstock จะยอมรับความเสี่ยงการใช้งานเองตามแต่ละกรณี และจะเป็นการซื้อขายภาพในรูปแบบ “Right managed (RM)” เสียส่วนใหญ่
Shutterstock มีการปกป้องทางกฎหมาย โดยที่เว็บแจกภาพฟรีไม่มี
คุณอาจเคยเจอเว็บไซต์แจกภาพฟรีมาก่อน ซึ่งเว็บไซต์เหล่านั้นมักก่อให้เกิดความเสี่ยงทางกฎหมายและทางการเงินให้องค์กรของคุณ ซึ่งตรงกันข้ามกับ Shutterstock ที่ให้ความคุ้มครองทางการเงินแก่ผู้ซื้อภาพในรูปแบบของวงเงินประกัน (Indemnification)
คุณ Clark กล่าว “ Shutterstock มีการรับรองและรับประกันว่าคอนเทนต์ทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ได้รับการตรวจสอบอย่างดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงมีคำแนะนำการใช้งานอันยอดเยี่ยม นี่คือคุณลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ของเรา เป็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง Shutterstock และเว็บแจกภาพฟรี
“Indemnification” คือการการันตีว่า Shutterstock จะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังคอนเทนต์ที่ลูกค้านำไปใช้งาน จากการเคลมโดยบุคคลที่ 3 ที่อ้างว่า Shutterstock ละเมิดสิทธิ์การใช้งาน”
- Standard license จะให้ค่าคุ้มครอง 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อภาพ
- Enhanced license จะให้ค่าคุ้มครอง 250,000 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อภาพ
- Premier license จะให้ค่าคุ้มครองไม่จำกัดวงเงิน
“เราจะไม่ปล่อยให้มีความเสี่ยงใด ๆ เกิดขึ้นกับคอนเทนต์ของเราแม้แต่อันเดียว นี่คือสิ่งสำคัญที่เราใส่ใจเสมอในทุกการตัดสินใจ”
หากคุณใช้เว็บไซต์แจกฟรีที่ไม่มีระบบป้องกันต่อไปเรื่อย ๆ คุณจะต้องยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามมา
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าช่างภาพได้อัปโหลดภาพที่พวกเขาไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปยังเว็บแจกภาพฟรี แล้วองค์กรของคุณบังเอิญไปโหลดมาใช้งาน องค์กรนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง
“การที่เรามีระบบนี้เป็นเรื่องที่ดีทำให้เรื่องราวในอดีตไม่เกิดซ้ำรอย เพราะเคยมีกรณีที่ “ภาพต้นไม้ในป่า” ภาพหนึ่งจากเว็บไซจ์ของเราถูกนำไปใช้เป็นวอลเปเปอร์ในร้าน ubiquitous brick and mortar หลายสาขา”
“แต่คนที่อัพโหลดผลงานบอกว่าภาพนี้ไม่ใช่ของเขา ผู้ถือครองสิทธิ์คือเจ้าของร้านทำวอลเปเปอร์ ซึ่งลูกค้าของเราไม่รู้เรื่องเลย (รวมถึง Shutterstock ก็ไม่รู้)”
Shutterstock ช่วยเหลือเคสนี้โดยการ
“ในกรณีของคนทำวอลเปเปอร์นี้ ความเสียหายคำนวณได้ง่ายมาก เพราะมันเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่กำหนดราคาต่อตารางฟุตของวอลเปเปอร์ที่ถูกใช้จริง จากนั้นหาจำนวนที่ถูกตีพิมพ์ แค่คูณออกมาก็ได้แล้ว”
“ระบบ Indemnification ทำให้ลูกค้าไม่ต้องจัดการปัญหาทางกฎหมายและปัญหาที่ยืดเยื้ออีกต่อไป”
“แต่ถ้าคุณใช้เว็บแจกภาพฟรีเหล่านั้นคงไม่รอดแล้วแน่ ๆ คุณควรหันมาใช้บริการจากมืออาชีพที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม อย่าง Shutterstock ได้แล้ว พวกเรามีอะไรให้คุณมากกว่าที่คุณคิด”
การเลือกสิทธิ์การใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ ยิ่งมีวงเงินประกัน (Indemnification) คนที่ใช้บริการจะยิ่งมั่นใจ ลูกค้าจะได้มั่นใจว่าแม้งานจะมีระดับใหญ่เพียงใด ก็สามารถทำให้เป็นจริงได้อย่างไร้กังวล
วงเงินประกันภาพยังรวมถึงภาพจาก Generative AI ด้วย
Shutterstock คือเจ้าแรกที่เปิดตัววงเงินประกันภาพ AI ซึ่งถูกประกาศใช้ในงาน Generative AI Showcase เดือนพฤษภาคม 2023
คุณ Clark เสริมว่า “วงเงินประกันภาพ AI ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งก่อนเราจะรับภาพ AI เข้ามานั้นต้องผ่านการตรวจสอบในรูปแบบเดียวกับภาพปกติ”
FAQ: เกี่ยวกับคอนเทนต์ Royalty-Free
1.ใช้ภาพสต็อกหลายแพลตฟอร์มถูกกฎหมายหรือไม่?
ถูกกฎหมายแน่นอน เพราะเมื่อคุณซื้อสิทธิ์การใช้งานแล้วก็สามารถใช้ได้เลย ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งาน
2.สามารถใช้ภาพสต็อกกับอะไรก็ได้ใช่ไหม?
ถ้าซื้อสิทธิ์การใช้งานถูกต้อง ก็สามารถนำไปใช้งานกับอะไรก็ได้ อยู่ที่ข้อจำกัดของสิทธิ์การใช้งานแต่ละประเภทว่าอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้
คอนเทนต์ของ Shutterstock ไม่สามารถใช้งานกับคอนเทนต์ประเภทเนื้อหาลามกอนาจาร หมิ่นประมาท หรือผิดกฎหมายและศีลธรรม
3.ใช้ภาพสต็อกบนโซเชียลมีเดียได้ไหม?
ใช้ได้อย่างไม่มีปัญหา
4.ใช้ภาพสต็อกเพื่องานศิลปะได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ภาพสต็อกในการประดับตกแต่งในพื้นที่เชิงพาณิชย์หรือไม่? ใช้เป็นสินค้าเพื่อขายในรูปแบบสิ่งพิมพ์หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นคุณต้องซื้อสิทธิ์เพิ่มเติมเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
5.ถ้าใช้ภาพสต็อกโดยไม่ได้รับอนุญาตจะเป็นอย่างไร?
หากคุณใช้ภาพสต็อกโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณอาจประสบปัญหาทางกฎหมายตามมา พร้อมกับต้องจ่ายค่าเสียหายจำนวนมากให้กับเจ้าของ ภาพ หรือผลงานนั้น
6.ภาพสต็อกถูกลิขสิทธิ์หรือไม่?
แน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างบนเว็บไซต์ Shutterstock ได้รับการคุ้มครองโดยลิขสิทธิ์ทั้งหมด เว้นแต่ลิขสิทธิ์นั้นจะถูกยกเลิกโดยบางกรณี
7.สามารถใช้ภาพสต็อกแบบไม่มีลิขสิทธิ์ได้ไหม
ภาพแบบ Royalty-free ไม่เหมือนกับภาพ Copyright-free ถ้าคุณต้องการใช้ภาพที่ไม่มีลิขสิทธิ์คุ้มครอง คุณอาจจะต้องหาภาพสไตล์ public domain หรือผลงานภาพใต้สิทธิ์ Creative Commons Zero (CC0)
8.ใช้ภาพสต็อกแล้วสามารถถูกฟ้องได้ไหม?
คุณสามารถถูกฟ้องได้ถ้าใช้งานผิดกฎข้อตกลง หรือถ้าคุณใช้ภาพสต็อกที่ถูกขโมยมา ไม่ว่าคุณจะรู้หรือไม่ก็ตาม ด้วยเหตุนี้เราจึงมีวงเงินประกันภาพ (Indemnification) ให้คุณได้อุ่นใจ
ทุกภาพที่คุณเห็นในแพลตฟอร์มของเราสามารถใช้งานได้ทั้งหมด แต่คุณจะต้องเช็คสิทธิ์การใช้งานให้ดี
บทความโดย : How to Legally Use Your Stock Photos Across Multiple Platforms
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24