ชื่อ-นามสกุล : นางสาวมนปองขวัญ อ่วมสอาด
ชื่อเล่น : น้องหยก
ฝึกงานตำแหน่ง : Content Creator
ระยะเวลาการฝึกงาน : 1 มิ.ย. – 31 ก.ค. 66
1.การฝึกงานที่นี้ได้อะไรบ้าง
“หยกความรู้หลายอย่างจากการฝึกงานที่นี่เยอะมากเลยค่ะ ตั้งแต่วันแรกก็ได้ความรู้จากการปูพื้นฐานของบริษัทฯเลย พอลงมือทำงานจริง ได้ลองคิดไอเดียต่างๆ แล้วนำไอเดียเหล่านั้น มาทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น วิธีการทำให้ลูกค้าสนใจคอนเทนต์ของเรา, วิธีการเขียนบล็อก (Blog), วิธีการแปลบทความต่างๆ นอกจากการเรียนที่มาจากรั้วมหาลัย คำแนะนำต่างๆ ของพี่ฝ่าย Creative ที่หยกสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง และเรื่องอื่นๆ ที่หยกเองไม่เคยได้ลองทำ ก็ได้ลองทำที่นี้เป็นครั้งแรก เช่น การเป็นหนึ่งในทีมงานออกอีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งได้เห็นวิธีการเตรียมงาน หรือผลงาน Workshop ของลูกค้า หรือแม้แต่การไปเป็นผู้ช่วยวิทยากรที่มหาลัยกรุงเทพ ถึงแม้ว่าหยกจะฝึกงานกับฝ่าย Creative แต่หยกก็สนิทกับพี่ๆ หลายทีม โดยเฉพาะฝ่าย Sales หยกได้เรียนรู้การทำงานของขายนั้นมาบ้าง เช่น วิธีการพูดเจรจาหรือคำศัพท์ที่ใช้กับลูกค้าอย่างเหมาะสม”
2.สำหรับการฝึกงานในสำนักงานเป็นอย่างไรบ้าง
“สำนักงานไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ทุกคนนั่งใกล้กันหมดเลยทำให้ได้ใกล้ชิดกับทุกฝ่าย แต่ถ้าใครอยากใช้สมาธิก็มีห้องเก็บเสียงเล็กๆ เอาไว้ให้ใช้งาน รวมถึงห้องครัวที่มีขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ให้หยิบได้ตลอดทั้งวัน ถือว่าเป็นออฟฟิศที่ครบมากๆ และถูกใจสายคอกาแฟอีนอย่างหยกสุดๆ เลยค่ะ เป็นกำลังในการทำงานชั้นดีเลย”
3.โลกในรั้วมหาลัยกับที่ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
“ความจริงหยกคิดไว้อยู่แล้วว่า รั้วมหาวิทยาลัยกับการทำงานจริงต้องมีความแตกต่างกันไม่มากก็น้อย ซึ่งก็ต่างกันจริงๆ ค่ะ ทั้งในด้านการนำความรู้มาใช้จริง มันมากกว่าการทำให้ดีที่สุดเพื่อเราจะได้คะแนนดีๆ ในตอนเรียนของแต่ละวิชา เพราะการทำงานจริงๆ เราต้องคำนึงหลายอย่างมากกว่านั้น”
4.ความท้าทายของน้องนักศึกษาคืออะไร
“เวลากับงานที่ได้รับมอบหมายเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับหยกมากค่ะ เพราะงานที่เข้ามาไม่ได้มาทีละงาน แต่เวลาที่หยกฝึกงานค่อยข้างจำกัด เพราะฉะนั้นหยกต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้เสร็จและออกมาดี ซึ่งตอนแรกหยกยอมรับว่าติดปัญหาเรื่องนี้และเผลอกดดันในตัวเอง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพี่ๆ และฝึกฝนบ่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่หยกก็รู้สึกว่าตัวเองพัฒนาจากเดิมขึ้นมาเยอะมากจริงๆ ค่ะ”
5.Comfort Zone ที่ได้ก้าวข้าม เมื่อได้ลองฝึกทำงานเสมือนจริง
“การทำงานคนเดียวโดยไม่มีเพื่อนมาคอยช่วย อันนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่หยกไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง แต่ปกติงานที่หยกทำของมหาวิทยาลัยมักจะเป็นงานกลุ่ม และหยกเคยชินกับการปรึกษาเพื่อนเพื่อทำงานออกมาให้ดีที่สุด และอยู่ในเวอร์ชั่นที่หยกมั่นใจที่สุด แต่ตอนฝึกงานจริงนั้นต้องแยกมาทำงานที่พึ่งพาตัวเองล้วนๆ บางครั้งก็รู้สึกว่างานของหยกคนเดียวจะออกมาไม่ดีเหมือนตอนทำกับเพื่อนหรือเปล่า แต่พอทำเองจริงๆ แล้ว หยกก็รู้สึกว่าตัวเองทำได้และเป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ได้แย่ไปกว่าตอนทำกับเพื่อนๆ เลย เป็นทั้งการก้าวข้าม Comfort ไปพร้อมๆ กับการสร้างความมั่นใจในตัวเองค่ะ”
6.คิดว่าสิ่งที่ได้มาฝึกงานเรื่องไหนบ้างที่จะนำไปใช้กับอนาคตของน้อง
“ข้อนี้ ถ้าจะให้ตอบจริงๆ หมดคงกินไปหลายหน้าเพราะมีเยอะมากๆ ค่ะ แต่หลักๆ อย่างแรกที่หยกจะนำไปใช้ คือความรู้ที่ได้จากการทำงาน เช่น การติดต่องาน, การนำเสนอ, การบรรยายต่อคนหมู่มาก, วิธีการคิด, การผลิตสื่อหรือการแปล รวมไปถึงเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสังคมการทำงาน ที่จะมีเรื่องของกฎข้อบังคับหรือข้อตกลงการอยู่ร่วมกันในบริษัทฯ ที่เข้มงวดมากขึ้น ไปจนถึงเรื่องของภาษีที่พี่แป้ง (ฝ่ายบุคคล) สอนหยกในวันแรกๆ ที่เข้ามา หยกจะมีภูมิคุ้มกันไว้ก่อนเจอของจริงจะได้ไม่ตกใจค่ะ”
7.ความประทับใจที่นี้มีเรื่องอะไรบ้าง
“หยกประทับใจหลายอย่างเลยค่ะ แต่ที่ประทับใจมากนอกจากเรื่องของกินและความรู้นั้น ก็คงเป็นพี่ๆ ที่บริษัทฯ ที่เปิดโอกาสให้หยกได้มีประสบการ์ณดีๆ แบบนี้ บางอย่างที่หยกไม่นึกว่าจะได้ทำ ก็ได้ลองทำที่นี้เป็นครั้งแรก พี่ๆ ทุกคนใจดีกับหยกมากๆ และเป็นกันเองกับหยกสุดๆ ชวนหยกไปนู้นไปนี่ ช่วยหยกตั้งหลายอย่าง ทั้งเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิต เป็นที่ปรึกษาที่ดี หยกรู้สึกสองเดือนตรงนี้เป็นสองเดือนที่คุ้มมากเลยค่ะ”
8.อื่น ๆ ที่น้องนักศึกษาอยากจะบอกกับ Number 24
“ขอบคุณทุกๆ อย่าง ตลอดสองเดือนเลยนะคะ ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่หยกดีใจที่ได้รู้จักพี่ๆ ทุกคน ขอบคุณพี่ๆ ที่คอยซัพพอร์ต ยื่นโอกาสดีๆ มาให้ คอยมาคุยเล่น แบ่งขนมให้กิน ที่สำคัญขอบคุณเหล่าเจ้ๆ (พี่ๆ ฝ่าย Sales) ที่ไปกินข้าวกับหยกเป็นเพื่อน เป็นพี่ที่ปรึกษาที่ดีให้หยกตลอดสองเดือน หยกดีใจมากๆ ที่ได้มีมิตรภาพดีๆ แบบนี้ ถึงหยกจะฝึกงานเสร็จก็นัดกินข้าว นัดเที่ยวได้นะคะ <3”