ภาพ AI ทำไมถึงสำคัญกับโลกปัจจุบัน?

ภาพ AI กลายเป็นเครื่องมือใหม่ที่ครีเอทีฟและการตลาดไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคของเมต้าเวิร์สอย่างเป็นทางการ ทำให้การแข่งขันในทุกอุตสาหกรรมเริ่มพุ่งสูงขึ้น ในอดีตการทำธุรกิโฆษณา การตลาด หรือคอนเทนต์จะต้องมีการวางแผนกันล่วงหน้ารายสัปดาห์หรือรายเดือน แต่ปัจจุบันการวางแผนต้องทำกันรายชั่วโมงหรืออาจเป็นรายนาที เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาในโลกอินเทอร์เน็ต +การแข่งขันทางธุรกิจ

ดังนั้นการคิดคอนเทนต์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงก็ต้องรวดเร็วยิ่งขึ้น ทันเหตุการณ์มากขึ้น และไม่ตกเทรนด์ นั่นหมายความว่าภาพประกอบคอนเทนต์จึงต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา แต่กว่าจะคิดไอเดียและทำภาพประกอบขึ้นมาสักชิ้นต้องใช้เวลานาน ภาพ AI จึงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุด

ภาพ AI สร้างขึ้นมาได้อย่างไร?

ผลงานของ AI ถูกสร้างขึ้นมาจากเทคนิคการเรียนรู้โดยใช้ภาพต้นฉบับที่มีอยู่จริง พร้อมกับ metadata หรือข้อมูลที่ใช้ระบุว่าภาพนั้นคืออะไร (เป็นได้ทั้งคีย์เวิร์ด คำอธิบายภาพ เม็ดสี ขนาด ฯลฯ)  ระยะเวลาในการฝึกฝนนั้นอาจเป็นวันหรือยาวนานนับปีขึ้นอยู่กับปริมาณภาพที่ถูกส่งเข้าไปให้ AI ฝึกฝน 

วิธีการฝึกฝนก็คือใช้อัลกอริธึมของ Machine learning และ DNN (Deep Neural Networks) ในการฝึก ทำให้ AI สามารถเรียนรู้และสร้างผลลัพธ์ของภาพ AI ใหม่ ๆ โดยมีสิ่งข้างต้นเป็นพื้นฐาน

ความถูกต้องของการใช้ภาพ AI เชิงพาณิชย์

คำถามที่เกิดขึ้นมาอย่างมากมายบนโลกใบนี้ หลังจากการถือกำเนิดของโปรแกรมสร้างภาพ AI ก็คือสิ่งนี้จะมาแทนที่ศิลปินจริง ๆ หรือไม่? และภาพที่ AI นำไปใช้ฝึกฝนได้รับการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่? 

เรื่องราวคล้ายกันแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนในครั้งอดีต การถือกำเนิดของกล้องถ่ายรูปคือหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทั่วโลกเคยถกเถียงกันว่าสิ่งนี้จะมาแทนที่ศิลปินหรือไม่? ปัจจุบันสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่ากล้องถ่ายภาพไม่สามารถแทนที่ศิลปินได้ แต่กลับกลายเป็นศิลปะในแขนงใหม่แทน 

ในส่วนของการนำภาพมาฝึกฝนให้ AI เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะการนำภาพที่ไม่ได้รับอนุญาตมาป้อนให้กับ AI ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่สมควรในแง่ของจริยธรรม เป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง

Shutterstock จึงออกมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้โดยการสร้างเครื่องมือ Generative AI ของตัวเองโดยใช้ AI โมเดล DALL·E 3 เป็นพื้นฐานการสร้างภาพ AI รวมถึงใช้ภาพของศิลปินจากแค่ในแพลตฟอร์มของ Shutterstock เท่านั้นในการฝึกสร้างภาพ AI อีกด้วย

ผลงานของศิลปินทุกคนที่ถูกนำภาพไปฝึกให้ AI ทาง Shutterstockจะมอบส่วนแบ่งค่าตอบแทนผ่าน Contributor Fund เป็นระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานนี้โดยเฉพาะ โดยจะแบ่งออกไป 2 ส่วน ในส่วนแรกก็คือทุกครั้งที่ AI นำภาพไปฝึก เจ้าของภาพจะได้รับเงินค่าตอนแทนนั้นทันที ในส่วนที่สองก็คือเมื่อลูกค้านำภาพนั้นไปใช้งานเชิงพาณิชย์ เจ้าของภาพทุกคนที่มีส่วนในการสร้างภาพนั้นก็จะได้รับส่วนแบ่งเช่นกัน

หลังจากที่สร้างภาพ AI ออกมาแล้ว Shutterstock ยังมีการตรวจสอบภาพ AI เพิ่มเติมด้วยมนุษย์และ AI ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าภาพที่ถูกสร้างมาจะไม่มีเครื่องหมายการค้า โลโก้ แบรนด์ หรือสิ่งใด ๆ ที่อาจทำให้เกิดการฟ้องร้องด้านกฎหมายต่อตัวผู้ใช้งานภาพ AI ในภายหลัง

เรายังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานภาพ AI มากขึ้นโดยการออกแบบระบบที่ชื่อว่า Indemnification (วงประกันภาพ) ซึ่งมีไว้ใช้รับประกันว่าถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้นอันเป็นเหตุจากการใช้ภาพ AI ทาง Shutterstock จะมอบการคุ้มครองและชดเชยแก่ผู้ใช้งานสู้คดีเป็นจำนวนเงินตามที่ตกลงไว้

ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นคือสิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการใช้ภาพ AI ถูกลิขสิทธิ์ของ Shutterstock ที่อยากให้ทุกคนสามารถนำภาพ AI ไปใช้เชิงพาณิชย์ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และไร้กังวล

ประโยชน์ของการใช้ภาพ AI กับธุรกิจอุตสาหกรรม

อย่างที่ทุกคนทราบว่าเทคโนโลยีคือสิ่งที่พัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทุกธุรกิจจึงต้องแสวงหานวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้เพื่อก้าวนำคู่แข่งอยู่เสมอ Generative AI จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญและให้คุณประโยชน์มากมาย สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของทุกคนไปอย่างสิ้นเชิง และสร้างมูลค่าให้กับบริษัทได้อย่างมหาศาลทั้งด้านเม็ดเงินและเวลา แบ่งเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

1.สร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด

ทุกคอนเทนต์ต้องผ่านกระบวนการคิดมาอย่างถี่ถ้วน บ่อยครั้งที่ไอเดียของคุณไม่สามารถเป็นจริงได้เพราะมีข้อจำกัดอะไรหลาย ๆ อย่างและเครื่องมือในการทำงาน แต่ภาพ AI ที่เกิดจาก Generative AI คือสิ่งที่จะทลายข้อจำกัดเหล่านั้นลง ให้ทุกคนสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด มี Style ไอเดียให้เลือกมากมาย ใน Shutterstock ยังมีภาพ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ใช้ท่านอื่นให้คุณใช้งานได้อีกด้วย

2.ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้าทุกประเภท

หนึ่งในกุญแจความสำเร็จของภาพ AI ก็คือการนำ metadata ที่อยู่ในรูปภาพมาฝึกฝน ทำให้ Generative AI มีข้อมูลเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่ว่าคุณจะพิมพ์อะไรลงไปภาพก็จะออกมาตามที่คุณคิดไว้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เครื่องมือนี้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกประเภท ต่อให้คุณไม่ใช่นักออกแบบ ไม่มีประสบการณ์ด้านออกแบบก็สามารถสร้างสรรค์งานได้ง่าย ๆ 

3.ประหยัดเวลามหาศาล

Generative AI ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและต้นทุนลงอย่างมหาศาล งานที่ต้องทำซ้ำและใช้เวลานาน เช่น การหาข้อมูล การสร้างภาพประกอบ หรือแม้กระทั่งกระบวนการตัดสินใจ ทุกขั้นตอนที่กล่าวมาต้องใช้เวลารวบรวมเข้าห้องประชุมกันเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ๆ แต่ภาพ AI ที่ถูกสร้างขึ้นในเวลาไม่กี่วินาทีจะมาช่วยย่นระยะเวลาเหล่านี้ให้ไวขึ้น เห็นภาพโดยรวมง่ายขึ้น 

4.ถูกจริยธรรม

การก้าวกระโดดของวงการเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องมาพร้อมกับจริยธรรมที่ก้าวนำตามไปด้วยกัน ถ้าไม่มีจริยธรรมคอยควบคุมก็เปรียบดั่งโลกที่ไร้กฎเกณฑ์ Shutterstock จึงสร้างมาตรฐานนี้ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือศิลปินและลูกค้าให้ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็น Contributor Fund และ Indemnification 

นี่เป็นแค่ตัวอย่างประโยชน์การใช้งานภาพ AI หลัก ๆ ที่สามารถพบเจอได้จากการใช้งาน เราคาดว่าประโยชน์ของการใช้ภาพ AI ยังคงมีอีกมากมายรอให้ทุกคนค้นพบต่อไปในอนาคต ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร เช่น กราฟิก การตลาด เจ้าของธุรกิจ ฯลฯ ก็สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ 

สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนลองเปิดใจนำภาพ AI ที่ถูกสิทธิ์การใช้งาน สร้างจากโมเดล AI ที่ถูกจริยธรรม นำไปใช้งานกันเยอะ ๆ เพราะภาพ AI จะต้องกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักของการทำธุรกิจในอนาคตอย่างแน่นอน