สีคือตัวแทนและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างมากในแง่ของจิตวิทยาและภาพจำ มาเรียนรู้การเลือกชุดสีให้กับแบรนด์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใช่และถูกใจทุกคน!
การจัดวางองค์ประกอบ สี และแสงคือส่วนหนึ่งในการออกแบบและมีบทบาทต่อสมองในการประเมินความรู้สึก ทุกรายละเอียดมีอิทธิพลต่องานออกแบบ ศิลปะ และจินตนาการของเรา ขึ้นอยู่กับวิธีการสื่อสารออกไป
สีก็คือหนึ่งในบทบาทสำคัญของการประมวลผลในสมองของเรา ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่บริษัทและองค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญอย่างมากในการเลือกชุดสีที่เหมาะสมกับตัวแบรนด์ให้มากที่สุด
ไม่ว่าคุณจะพึ่งสร้างแบรนด์หรือกำลังรีแบรนด์อยู่ ก็สามารถนำเทคนิคของเราไปใช้ได้เช่นกัน แต่ก่อนจะทำแบบนั้นคุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าคนที่เห็นสีเหล่านี้รู้สึกอย่างไร
การเลือกสีที่ใช่ให้กับแบรนด์
การเลือกสีที่ใช่ให้กับแบรนด์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อการรับรู้ของลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ในระยะยาว ซึ่งสีสามารถสร้างความรู้สึก กระตุ้นอารมณ์ และสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้โดยไม่ต้องใช้คำพูดมากมาย ดังนั้นเราควรเลือกสีอย่างมีกลยุทธ์ โดยสามารถพิจารณาจากแนวทางต่อไปนี้
- เข้าใจตัวตนและคุณค่าของแบรนด์
เริ่มจากการระบุว่าแบรนด์ของคุณมีบุคลิกแบบไหน เช่น ทันสมัย หรือ คลาสสิก? เป็นมิตร หรือ ทางการ? หรูหรา หรือ เข้าถึงง่าย? ใช้นวัตกรรม หรือ แบบดั้งเดิม?
จากนั้นให้คุณเลือกสีที่สะท้อนคุณลักษณะนั้น เช่น แบรนด์ที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาจเลือกสีฟ้าหรือเทา เพื่อสื่อถึงความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ และความล้ำสมัย เป็นต้น
- เรียนรู้ความหมายของสีในทางจิตวิทยา
สีแต่ละสีมีอิทธิพลทางอารมณ์และมีความหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรเลือกสีให้เหมาะกับแต่ละบริบท
- สีแดง : พลังงาน, ความตื่นเต้น, ความเร่งด่วน
- สีฟ้า : ความเชื่อมั่น, ความปลอดภัย, ความเย็น
- สีเหลือง : ความร่าเริง, ความอบอุ่น, ความคิดสร้างสรรค์
- สีเขียว : ความสดชื่น, ธรรมชาติ, ความสมดุล
- สีดำ : หรูหรา, พรีเมียม, อำนาจ
- สีขาว : ความบริสุทธิ์, ความเรียบง่าย
- ศึกษากลุ่มเป้าหมาย
สีสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มได้มากกว่าอีกกลุ่ม โดยที่ เพศ, อายุ, และวัฒนธรรมมีผลต่อการรับรู้สี เช่น สีพาสเทลอาจเหมาะกับกลุ่มวัยรุ่นหรือแบรนด์ที่ต้องการสื่อความน่ารัก อ่อนโยน หรือสีเข้ม เช่น น้ำเงินกรมท่า อาจเหมาะกับกลุ่มลูกค้าธุรกิจหรือองค์กร
- วิเคราะห์คู่แข่ง
ต้องมีการศึกษาว่าแบรนด์ในอุตสาหกรรมเดียวกันใช้สีอะไร โดยเราจะได้เลือกสีที่โดดเด่นและไม่ซ้ำ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ หรืออาจเลือกใช้เฉดสีที่แตกต่างเพื่อยังคงความคุ้นเคยแต่โดดเด่นกว่า
- ทดลองใช้งานจริง
ทดสอบการใช้สีในโลโก้ เว็บไซต์ สื่อโฆษณา หรือแพ็คเกจจิ้ง และดูว่าสีที่เลือกยังคงให้ความรู้สึกที่ต้องการหรือไม่ และอย่าลืมตรวจสอบความชัดเจนของสีเมื่อตีพิมพ์หรือใช้งานบนหน้าจอที่ต่างกัน เพื่อให้ประสิทธิภาพของสีออกมาตรงตามที่ต้องการ
จิตวิทยาการเลือกใช้สีให้กับแบรนด์
คุณเลือกซื้อสินค้าจากสีตลอดเวลาโดยที่คุณไม่รู้ตัว สิ่งนี้มักเกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณแต่จริง ๆ แล้ววิทยาศาสตร์เรียกสิ่งนี้ว่าทฤษฎีการใช้สี
ทฤษฎีสี Vs. จิตวิทยาสี
ทฤษฎีสีจะเป็นตัวอธิบายว่าสีต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และมีลักษณะอย่างไรเมื่อนำไปรวมกับโทนสีต่าง ๆ และถูกพัฒนาจนกลายเป็นจิตวิทยาสี ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่
ทั้งสองสิ่งคือความรู้ที่แบรนด์จะต้องใช้ในการพัฒนาและเลือกชุดสีที่เหมาะสมในการทำการตลาดต่อไป
จิตวิทยาสีจะมุ่งเน้นไปที่สัญลักษณ์และความหมายของสีแต่ละประเภท รวมถึงผลกระทบของสีและการผสมผสานเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจมนุษย์อย่างไรได้บ้าง เป็นเครื่องมือที่นักการตลาดใช้ในการสร้างแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ละเฉดสีกระตุ้นความรู้สึกไม่เหมือนกัน เป็นการกำหนดอารมณ์ของผู้ชมให้แสดงออกต่อชิ้นงานนั้น ๆ อย่างตั้งใจ
สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องเข้าใจมนุษย์ในแต่ละพื้นที่ว่าพวกเขามีอารมณ์ร่วมกับสีที่คุณจะใช้อย่างไร เพราะผลกระทบของจิตวิทยาสีไม่ใช่สากล ต่างคนต่างวัฒนธรรมมีความเข้าใจสีที่ไม่เหมือนกัน ทำให้คุณต้องศึกษาก่อนทำการตลาดอย่างสม่ำเสมอ
การเลือกใช้สีที่ถูกต้องนั้นหมายถึงมูลค่าของแบรนด์และจำนวนการซื้อขายสินค้าจะเพิ่มขึ้นด้วย
สีโทนอุ่น
สีโทนอุ่นอย่างเช่น สีแดง สีส้มและสีเหลือง สร้างความรู้สึกในสมองเราทันทีว่านี่คือสีที่อบอุ่น สดใสและมีชีวิตชีวา สีเหล่านี้สามารถสื่อสารได้มากมาย แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็อาจตีกันจนความหมายหายไปได้ เพราะสีโทนอุ่นส่วนใหญ่เป็นสีที่เด่นชัดจนเกินไป เป็นสีที่คอยช่วยยกระดับสีรอบข้างขึ้นมาให้โดดเด่น และไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสีอื่น ๆ เท่าไหร่นัก
ควรใช้สีโทนอุ่นพอประมาณ โดยเน้นที่วัตถุหลักของแบรนด์ หรือจับคู่กับสีโทนเย็นเพื่อสร้างความสมดุล
สีโทนเย็น
ขั้วตรงข้ามของสีโทนอุ่น ที่มีความเย็นยะเยือกและให้ความสงบที่มากกว่า เช่น สีฟ้า สีเขียว และสีม่วง หรือแม้แต่สีชมพูที่เป็นได้ทั้งสีโทนอุ่นและโทนเย็น เข้ากันได้ดีกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารเรื่องความเรียบง่าย
มาดูกันดีกว่าว่าชุดสีแบบใดที่เหมาะสมกับงานของคุณ
แดงสุดฤทธิ์พิชิตใจ

ทุกประเทศล้วนมีความรู้สึกต่อสีแดงที่ต่างกันในบางครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือความรู้สึกสดชื่น กระตือรือร้น ทรงพลัง ความแข็งแรง และความว่องไว เป็นสีที่สั่งให้ผู้ชมต้องหยุดดูทันทีเพื่อครุ่นคิดกับบางสิ่ง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือการเลือกใช้นี้เราจะเห็นบ่อยมากในงานออกแบบโลโก้ เช่น CNN, Coca Cola และ Pinterest ต่างใช้สีแดงในงานโลโก้ของบริษัท ซึ่งทั้งสามแบรนด์นี้สื่อสารไว้ประมาณว่า
- CNN ให้พลังแห่งการเรียนรู้
- Coca-Cola ให้พลังแห่งความสนุกสนาน
- Pinterest ให้พลังแห่งความสร้างสรรค์
แบรนด์เหล่านี้ล้วนถ่ายทอดอารมณ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ
สีส้มอบอุ่นสายตา

สีส้มเป็นอีกสีที่ให้ความสว่างและความสดใส มอบความสมดุลให้กับทุกชิ้นงานเหมือนกับสีแดง แต่มีความจืดกว่าเล็กน้อย จึงทำให้สีส้มไม่ดูดุดันจนเกินไป
เนื่องจากสีส้มมีชื่อมาจากผลไม้ ทำไมให้บ่อยครั้งที่ถูกใช้ในโลโก้เครื่องดื่ม เช่น Fanta และ Crush เพราะสีส้มให้ความรู้สึกสนุกสนานโดยธรรมชาติ
แต่ถึงอย่างนั้นเลือกสีส้มก็ยังถูกใช้ในโลโก้ Amazon ซึ่งเป็นสีดำและสีขาว ยกเว้นแต่ลูกศรที่เชื่อมต่อบริเวณตัว A ถึง Z ทำให้เกิดการดึงดูดสายตาที่ยอดเยี่ยมและอบอุ่น
สีเหลืองแสนสดใส

ทุกสีล้วนมีความหมายที่ขัดแย้งกันเอง โดยเฉพาะสีเหลืองที่มีสีสว่างสดใสและเป็นเชิงบวกสูง สื่อสารถึงเรื่องความสุข แสงอาทิตย์ ฤดูร้อน และความสุข แต่ก็ยังคงสื่อสารในเรื่องเชิงลบได้ด้วย เช่น อาการป่วย ความขี้อิจฉา และความอันตราย
ซึ่งมีหลายองค์กรเลือกใช้สีเหลืองสื่อสารด้านดี ๆ ออกมา เช่น McDonals, Nikon และ National Geographic ถึงแม้แต่ละบริษัทจะค้าขายผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน แต่เป้าหมายที่เหมือนกันคือทำให้ผู้บริโภคมีความสุขในชีวิต
สีเขียวเฟรนลี่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

บางพื้นที่ “สีเขียว” สื่อสารได้ถึงความหมายว่า “ไป” โดยเฉพาะสัญญาณไฟจราจร แต่ในระดับสากลนั้นสีเขียวหมายถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความยั่งยืน
หลายองค์กรล้วนเลือกใช้สีเขียวในแบรนด์ตนเอง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรกรรม เช่น Whole Foods และ John Deere
สีน้ำเงินแสนสงบ

ถ้าคุณอยากได้สีที่เห็นแล้วรู้สึกสงบเงียบ ให้นึกถึงสีน้ำเงินที่ส่วนใหญ่จะนึกถึงมหาสมุทรและการทำสมาธิ ทำให้สีน้ำเงินเหมาะสมกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารเรื่องสินค้าและบริการที่แสนเงียบสงบ ทำให้เราเห็นธนาคารและบริษัทให้บริการเรื่องการเงินหลายแห่งเลือกใช้สีน้ำเงินในงานออกแบบ
หากลูกค้าทำธุรกรรมเรื่องการเงิน อย่างน้อยสีที่ใช้ควรสื่อสารได้ว่าถ้าพวกเขาทำธุรกรรมกับเรา จะได้รับบริการที่เงียบสงบและไร้กังวล แม้ว่าธุรกรรมหลายอย่างจะตึงเครียดก็ตาม
สีม่วงสูงศักดิ์

หากคุณต้องการทำให้งานมีกลิ่นอายของความหรูหราและสูงศักดิ์ การเลือกสีม่วงคือวิธีที่ดีในการบรรลุเป้าหมาย และยังสื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการอีกด้วย
แบรนด์ต่าง ๆ เช่น Yahoo และ Cadbury ใช้สีม่วงเป็นพื้นหลังสำหรับโลโก้บริษัท ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ทันที
โดยที่ Yahoo สื่อสารถึงปัญญาและความรู้ ในส่วนของ Cadbury ผู้ก่อตั้งเคยถวายผลิตภัณฑ์ของตนให้กับสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งประเทศอังกฤษ จึงทำให้แบรนด์มีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับความหรูหรา
สีขาว-ดำสุดล้ำลึก

บ่อยครั้งที่สีขาว-ดำ ถูกใช้คู่กัน เพราะสีดำให้ความรู้สึกลึกลับและสีขาวให้ความรู้สึกสะอาดบริสุทธิ์ เมื่อนำมาผสมกันทำให้เกิดความรู้สึกสมดุล
Cartoon Network ใช้สีดำและสีขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างโลโก้ที่มีสมดุลที่ดี คล้ายกับยินหยางที่สื่อสารถึงแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ในเรื่องของอารมณ์และความหมายเบื้องหลัง สีทุกอย่างบนโลกสามารถสื่อสารและสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้มากมาย และบ่อยครั้งที่เราเห็นว่าสีที่เรียบง่ายจะสร้างผลกระทบได้ดีกว่าสีที่ฉูดฉาดเยอะเกินไป ถ้าถูกใช้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้แบรนด์ได้รับการจดจำได้เป็นอย่างดี
อย่าลืม “Simple is the key” หรือความเรียบง่ายคือสิ่งสำคัญ (ไม่มีใครสามารถจำโลโก้ที่อัดแน่นไปด้วยสีและความซับซ้อนได้) ถ้าให้ดีเลือกชุดสีแค่ 1-2 สีก็เพียงพอแล้ว
สีไหนเหมาะกับอุตสาหกรรมอะไร
วันนี้จะมาแนะแนวทางการเลือกสีที่เหมาะกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยอิงจากหลักจิตวิทยาสีและการใช้งานจริงของแบรนด์ชั้นนำในแต่ละอุตสาหกรรม
- สุขภาพ / การแพทย์ / เภสัชกรรม
สีที่เหมาะ :
- สีฟ้า : ความน่าเชื่อถือ ความสะอาด ความสงบ
- สีเขียว : สุขภาพ ความเป็นธรรมชาติ การฟื้นฟู
- สีขาว : ความบริสุทธิ์ ความสะอาด ความโปร่งใส
ตัวอย่างแบรนด์ : Johnson & Johnson, Pfizer, CVS
- อาหาร / เครื่องดื่ม
สีที่เหมาะ :
- สีแดง : กระตุ้นความอยากอาหาร พลังงาน
- สีเหลือง / สีส้ม : ความร่าเริง ความเป็นมิตร ดึงดูดสายตา
- สีเขียว : สื่อถึงความสด สารอินทรีย์ หรือสุขภาพดี
ตัวอย่างแบรนด์ : McDonald’s, KFC, Subway
- แฟชั่น / ความงาม / เครื่องสำอาง
สีที่เหมาะ :
- สีดำ : หรูหรา ทันสมัย มีสไตล์
- สีชมพู : อ่อนโยน โรแมนติก (โดยเฉพาะในความงามสำหรับผู้หญิง)
- สีทอง / สีเงิน : ความพรีเมียม ความพิเศษ
ตัวอย่างแบรนด์ : Chanel, Sephora, Victoria’s Secret
- เทคโนโลยี / ซอฟต์แวร์ / สตาร์ทอัพ
สีที่เหมาะ :
- สีฟ้า : ความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจ เทคโนโลยี
- สีเทา / สีเงิน : ความทันสมัย ความไฮเทค
- สีเขียวสะท้อน / สีม่วง / สีน้ำเงินเข้ม : เพื่อแสดงถึงนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
ตัวอย่างแบรนด์ : Facebook, Dell, Intel, Slack
- การเงิน / ธนาคาร / ประกัน
สีที่เหมาะ :
- สีน้ำเงินเข้ม / สีฟ้า : ความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ
- สีเขียว : การเจริญเติบโต ความมั่งคั่ง
- สีเทา : ความเป็นมืออาชีพ
ตัวอย่างแบรนด์ : VISA, American Express, SCB
- เกษตร / สิ่งแวดล้อม / พลังงานทางเลือก
สีที่เหมาะ :
สีเขียว : ธรรมชาติ ความยั่งยืน
สีน้ำตาล / สีเบจ : ธรรมชาติ ความอบอุ่น
สีฟ้าอ่อน : ความบริสุทธิ์ อากาศ น้ำ
ตัวอย่างแบรนด์ : Whole Foods, Greenpeace
- การท่องเที่ยว / โรงแรม / การบริการ
สีที่เหมาะ :
สีฟ้า : การเดินทาง ความอิสระ ความสงบ
สีทอง / สีส้ม : การต้อนรับ ความหรูหรา
สีเขียว / สีเทอร์ควอยซ์ : ความสดชื่น ผ่อนคลาย
ตัวอย่างแบรนด์: Hilton, Expedia, Emirate
แนะนำเว็บไซต์จับคู่สี ใช้งานง่าย ช่วยให้งานคุณดูสวย โดดเด่นกว่าเดิม
แนำนะเว็บไซต์จับคู่สี (Color Palette Generators) ที่ใช้งานง่าย เหมาะทั้งสำหรับมือใหม่และนักออกแบบมืออาชีพ ช่วยให้คุณเลือกสีได้อย่างสวยงามและมีหลักการ
- Coolors.co
สามารถสร้างพาเลตต์สีแบบสุ่มได้รวดเร็ว โดยเลือกล็อกสีที่ชอบ แล้วให้ระบบแนะนำสีอื่นที่เข้ากัน
Coolors.co รองรับโหมดตาบอดสี และแสดงค่า Hex/RGB แถมยังมีแอปบนมือถือและสามารถนำเข้าภาพเพื่อสร้างพาเลตต์จากภาพได้
- Adobe Color
มีวงล้อสีให้เลือกตามโหมดต่างๆ เช่น Analogous, Complementary, Triadic ฯลฯ นำภาพอัปโหลดมาแยกสีออกเป็นพาเลตต์ มีฟีเจอร์ตรวจสอบความสามารถในการอ่าน (Contrast Checker) เหมาะกับคนที่ต้องการควบคุมทฤษฎีสีแบบมืออาชีพ
- Khroma
ใช้ AI เรียนรู้จาก “สีที่คุณชอบ” แล้วสร้างชุดสีที่เหมาะกับรสนิยมเฉพาะของคุณ
แสดงพาเลตต์ในตัวอย่างที่ใช้งานจริง เช่น เว็บไซต์, ตัวอักษร, UI
- Color Hunt
เป็นแหล่งรวมพาเลตต์สีสวย ๆ ที่คัดเลือกมาแล้ว โดยจัดตามหมวดหมู่ เช่น Pastel, Vintage, Modern เป็นเว็บที่ใช้ง่ายมาก เพียงคลิกเพื่อคัดลอกโค้ดสี
- Canva Color Palette Generator
ใช้การสร้างพาเลตต์จากภาพถ่ายง่าย ๆ แค่ลากภาพเข้าไป ซึ่งใช้งานฟรี ไม่ต้องสมัครก็ได้ เหมาะสำหรับหา mood & tone ที่ตรงกับภาพหรือแบรนด์ของคุณ
สรุป
การเลือกสีให้แบรนด์ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ความสวยงาม” เท่านั้น แต่คือการสื่อสารความรู้สึก ตัวตน และคุณค่าของแบรนด์ในระดับจิตวิทยาอย่างลึกซึ้ง เพราะสีมีพลังในการดึงดูด สร้างความจดจำ และกระตุ้นอารมณ์ของผู้บริโภคได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สิ่งสำคัญคือการเลือกสีที่ สอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์ และ ตรงกับอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ เช่น สีฟ้าให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ เหมาะกับธุรกิจการเงินหรือเทคโนโลยี สีเขียวเชื่อมโยงกับธรรมชาติและสุขภาพ ส่วนสีแดงกระตุ้นความรู้สึกอยากอาหารและพลัง เหมาะกับธุรกิจอาหารหรือแบรนด์ที่ต้องการสร้างความโดดเด่น
นอกจากความหมายของสีแล้ว การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและศึกษาคู่แข่งก็สำคัญไม่แพ้กัน สีที่ดีควรช่วยให้แบรนด์ของคุณ “แตกต่างอย่างลงตัว” ในตลาด และสามารถใช้งานได้ดีทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์
เพียงแค่เลือกสีอย่างมีกลยุทธ์ สีจะไม่ใช่แค่ “องค์ประกอบตกแต่ง” อีกต่อไป แต่มันจะกลายเป็นพลังที่ขับเคลื่อนแบรนด์ของคุณให้ “สื่อสารได้โดยไม่ต้องพูด”
บทความโดย : Brand Colors: The How and Why of Picking the Right Colors
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24
Date: 10/06/2567