ในปี 2025 เทรนด์งานออกแบบ สร้างสรรค์จะเข้าสู่ยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีและความเป็นมนุษย์ผสานกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะ AI และการออกแบบเพื่อความยั่งยืนจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล สร้างผลกระทบเชิงบวก และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่คุณค่าความเป็นมนุษย์ยังคงเป็นแก่นแท้ของการออกแบบ เราจะได้เห็นงานศิลปะและคอนเทนต์ที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึก เชื่อมโยงกับผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยความหลากหลาย
สำหรับ เทรนด์ ปี 2025 การออกแบบจะเน้นการสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน การใช้ AI เพื่อประโยชน์ทางสังคม และการผสมผสานทุกองค์ประกอบเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ครบถ้วนและแตกต่างโดยสามารถแบ่งได้เป็น 5 เทรนด์ หลักสำคัญ คือ
1.ESG – เทรนด์งานออกแบบเพื่อความยั่งยืน
2.Enough is Enough – รู้จักพอ ด้วยความเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง
3.AI for Good – ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
4.Forget Playing it Safe
5.Fusion of Everything – ฟิวชันคือทุกสิ่ง ทุกสิ่งคือฟิวชัน
ESG Environmental, Social and Governance เทรนด์งานออกแบบ เพื่อความยั่งยืน
ในปัจจุบัน “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงคำที่ใช้พูดถึงสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงผลกระทบต่อสังคมและการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส นี่คือจุดเริ่มต้นของ ESG หรือ Environmental, Social, and Governance แนวคิดที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายวงการ รวมถึง งานออกแบบ ซึ่งกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการพัฒนาสินค้า บริการ และโครงการต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์อนาคต
ESG เป็นแนวทางที่ใช้ประเมินความรับผิดชอบขององค์กรใน 3 มิติ ได้แก่:
- Environmental (E) – สิ่งแวดล้อม การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหัวใจสำคัญของ ESG ธุรกิจต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้พลังงานสะอาด การดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
- Social (S) – สังคม ด้านสังคมของ ESG จะเน้นความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เช่น พนักงาน ลูกค้า ชุมชน และซัพพลายเชน การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย การดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่มั่นคงให้กับองค์กร
- Governance (G) – ธรรมาภิบาล ธรรมาภิบาลใน ESG หมายถึงการบริหารจัดการที่โปร่งใส เป็นธรรม และรับผิดชอบต่อสังคม ธุรกิจต้องมีโครงสร้างการจัดการที่สอดคล้องกับกฎหมาย นโยบายต่อต้านการทุจริต และระบบบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนและทำให้องค์กรเป็นที่ยอมรับ
การนำคอนเซ็ปต์ด้าน ESG มาใช้ในการสื่อสารและการออกแบบ เช่น ผ่านภาพถ่าย วิดีโอ หรือสื่อมัลติมีเดีย จะสามารถสร้างความตระหนักรู้ในประเด็นเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน โดย 34% ของผู้บริโภคยินดีจ่ายมากขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน และ 72% เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่เว้นแม้แต่การใช้รูปภาพในการตลาด
นี่คือสถิติบางส่วนที่เราพบจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ใช้บริการในเว็บไซต์ของ Shutterstock
- ในปีที่ผ่านมา อัตราการคลิกซื้อภาพประกอบเกี่ยวกับกระจกเพิ่มขึ้น 122%
- ถ้ามีภาพขวดแก้ว จะมีอัตราการคลิกเพิ่มขึ้น 44%
- ถ้ามีภาพแก้วไวน์แสดงในวิดีโอ จะมีอัตราการคลิกเพิ่มขึ้น 186%
- เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุอื่น ๆ ภาพกระดาษแข็ง มีการคลิกลดลงมากถึง 59%
จะเห็นได้ว่า การใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูงจาก Shutterstock ช่วยให้สามารถสื่อสารประเด็น ESG ได้อย่างมีประสิทธิภาพและชัดเจน ภาพที่เลือกใช้ควรสะท้อนถึงความโปร่งใสและความตั้งใจขององค์กรในการสนับสนุนความยั่งยืนอย่างแท้จริง การใช้ Shutterstock ยังสอดคล้องกับเทรนด์ความยั่งยืนและ ESG โดยลดการสร้างขยะและคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับการโปรดักชันใหม่
Enough is Enough รู้จักพอ ด้วยความเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง
เหตุผลที่เกิดเทรนด์นี้ขึ้น ก็เพราะยุคดิจิทัลเป็นยุคที่เทคโนโลยีสร้างความสะดวกสบายและมีการเชื่อมต่อไร้พรมแดน จึงทำให้หลายคนรู้สึกเปรียบเทียบและกดดันตัวเองจากการเห็นชีวิตที่ดูสมบูรณ์แบบในโซเชียลมีเดีย เทรนด์ ‘Enough is Enough’ จึงเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมความพึงพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
เรียนรู้ที่จะยอมรับและรักตัวเองอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องแข่งขันหรือเปรียบเทียบกับใคร แนวคิดนี้สนับสนุนให้ผู้คนแสดงความเป็นตัวเองโดยไม่ยึดติดกับแบบแผนที่สังคมกำหนด ความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริงควรมาจากการสำรวจตัวเองและแสดงออกในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งส่งผลให้เทรนด์นี้มีบทบาทสำคัญในหลายวงการ เช่น ศิลปะ แฟชั่น การออกแบบ และธุรกิจ
ผู้คนจะเลือกสินค้าที่สะท้อนถึงตัวตนและความเฉพาะตัวมากขึ้น รวมถึงการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมที่เป็นกระแส นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้แฟชั่นวินเทจและสินค้ามือสอง การสนับสนุนสินค้าท้องถิ่นและลดการใช้สิ่งที่เกินความจำเป็น
สิ่งที่จะพบเห็นมากขึ้นก็คือ ศิลปินและนักธุรกิจรุ่นใหม่หลายคนเลือกสร้างผลงานที่สะท้อนมุมมองส่วนตัวหรือแก้ไขปัญหาสังคมแทนที่จะทำตามตลาด ขณะที่นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ก็เลือกท่องเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เป็นที่นิยม เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครและสะท้อนตัวตนของพวกเขามากขึ้น เทรนด์นี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลายมิติ ผู้คนให้ความสำคัญกับความเป็นเอกลักษณ์ ลดการยึดติดกับกระแส และปฏิเสธการลอกเลียนแบบ
AI for Good ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
AI ถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การตลาด การพัฒนาสุขภาพและการศึกษา รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในธุรกิจที่มองหาการทำงานอัตโนมัติและการแก้ปัญหาสังคม บวกกับการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UN และ ITU ในการพัฒนา AI เพื่อความยั่งยืนและจริยธรรม
องค์กรดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาและใช้ AI ที่มีจริยธรรมและโปร่งใส เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI และทางเรา Shutterstock ได้เข้าร่วมการพัฒนาด้วย
ปี 2024 ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแห่งการทดลองและค้นพบศักยภาพของ AI ที่น่าตื่นเต้น ผู้พัฒนาและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เรียนรู้ผ่านการทดลองประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ในรูปแบบที่หลากหลาย Shutterstock พบว่า ในบรรดาฟังก์ชันทั้งหมดของบริษัท การตลาด คือ ส่วนที่ได้รับประโยชน์จาก AI มากที่สุด จึงทำให้ปัญญาประดิษฐ์กลายมาเป็นหนึ่งในมาตรฐานในอุตสาหกรรมปัจจุบัน และนี่คือสถิติที่น่าสนใจเป็นพิเศษ
- 25% ของบริษัทใช้ AI ในการทำงานอัตโนมัติแล้ว
- 51% ของบริษัทมีแผนที่จะเริ่มใช้งานเร็ว ๆ นี้
- 80% ของผู้บริหารกำลังเร่งกระบวนการทำงานอัตโนมัติในธุรกิจของตน
AI มีทั้งพลังแห่งการสร้างสรรค์และความเสี่ยง
‘เทคโนโลยีเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู’ เซอร์จอห์น เฮการ์ตี้ ผู้ก่อตั้งด้านครีเอทีฟแห่ง The Garage Entertainment กล่าวในงาน Cannes Lions 2024 ที่ผ่านมา “และแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับ AI และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น แต่นวัตกรรมก็ยังคงเฟื่องฟู”
AI มีศักยภาพในการเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมได้หลากหลาย ตั้งแต่การรักษาพยาบาลไปจนถึงการบริหารจัดการทรัพยากรโลก แต่ในอีกด้านหนึ่ง AI ก็ถูกนำไปใช้ในทางที่อาจสร้างความเสี่ยง ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้คือ ข่าวที่ชาวเบลเยียมตัดสินใจจบชีวิตตัวเองหลังจากคุยกับแช็ตบอตที่มีเนื้อหาชักชวนในทางที่ไม่เหมาะสม และในอีกกรณีก็คือ AI ถูกนำไปใช้ในการสร้างภาพอนาจารของบุคคล ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวาง ข้อกังวลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การใช้งาน AI จำเป็นต้องมีการควบคุมและกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
Shutterstock AI Image Generator จึงเน้นย้ำในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ โดยระบบได้เรียนรู้จากผลงานศิลปินที่ได้รับการอนุญาตให้ใช้อย่างถูกต้องและมีการจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรม สะท้อนถึงการให้คุณค่าและเคารพในทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องลูกค้าจากความเสี่ยงในการใช้งาน AI โดยมีการรับประกัน (indemnification) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานอย่างปลอดภัย
Forget Playing It Safe ลุยในแบบที่ใช่ของแบรนด์คุณ ไม่ต้องตามใคร
นี่คือเทรนด์ที่เน้นการกล้าคิด กล้าทำ และกล้าทดลองโดยไม่ยึดติดกับความปลอดภัยหรือความคาดหวังแบบเดิม ๆ เทรนด์นี้ส่งเสริมการเปิดรับความไม่แน่นอน และการยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งทำให้เกิดนวัตกรรมและไอเดียที่แตกต่าง เป็นการเดินออกจาก ‘พื้นที่ปลอดภัย’ เพื่อก้าวเข้าสู่การทดลองแบบไร้ขีดจำกัด ที่อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายและโดดเด่นกว่าเดิม
ไม่ว่าจุดยืนของคุณจะเป็นแบบใด การสื่อสารด้วยภาพที่ชัดเจนและสื่อถึงความเป็นตัวเองจะช่วยให้แบรนด์คุณโดดเด่นมากขึ้น คลังภาพที่ไม่มีขีดจำกัด Shutterstock มอบทางเลือกที่หลากหลายผ่านคลังภาพขนาดใหญ่ ทั้งงานครีเอทีฟ ภาพข่าว ภาพประวัติศาสตร์ เนื้อหา UGC และคอนเทนต์จากคอนทริบิวเตอร์ทั่วโลกที่อัปเดตใหม่ทุกวันให้แบรนด์สามารถเลือกสรรและสร้างสรรค์การสื่อสารที่สะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะต้องการภาพลักษณ์แบบใด
ลักษณะสำคัญของเทรนด์การออกแบบและสร้างสรรค์ Forget Playing It Safe
- ท้าทายกรอบเดิม
เทรนด์นี้ส่งเสริมการคิดนอกกรอบและท้าทายข้อจำกัดของความคิดสร้างสรรค์แบบดั้งเดิม โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบที่คุ้นเคย เพื่อผลักดันไอเดียใหม่ที่มีเอกลักษณ์และความเป็นตัวเอง - ทดลองและเรียนรู้จากความล้มเหลว
Forget Playing It Safe สนับสนุนการทดลองแม้จะมีความเสี่ยงต่อความล้มเหลว เพราะการเรียนรู้จากความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างนวัตกรรม การปล่อยให้ตนเองและทีมงานได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะผิดพลาด เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาต่อไป - การแสดงออกที่เป็นเอกลักษณ์ Authentic Expression
การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่กลัวการตัดสิน เช่น การใช้โทนสี แสงเงา หรือการออกแบบที่แปลกตา เป็นส่วนหนึ่งของ Forget Playing It Safe เพื่อให้ผลงานสร้างความรู้สึกและกระตุ้นความคิดที่แตกต่างออกไป - การกล้าพูดถึงประเด็นสังคมและปัญหาที่ไม่เคยถูกพูดถึง
เทรนด์นี้ยังเป็นการผลักดันให้แบรนด์หรือบุคคลกล้าแสดงจุดยืนและสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การนำเสนอเรื่องราวที่สะท้อนถึงปัญหาหรือความจริงที่อาจเป็นที่ถกเถียง ทำให้เกิดการสนทนาและกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง
ที่สำคัญ Shutterstock ไม่เพียงเป็นผู้บุกเบิก AI Generator รายแรกที่กล้านำเสนอนวัตกรรมใหม่ แต่ยังยืนหยัดในจุดยืนการปกป้องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของศิลปินอย่างจริงจัง โดยไม่ใช้ข้อมูลที่เสี่ยงต่อการละเมิดลิขสิทธิ์ที่อาจส่งผลเสียต่อลูกค้า สะท้อนให้เห็นว่า Shutterstock เป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่กล้าทำในสิ่งที่แตกต่าง Forget Playing It Safe ด้วยการยืนหยัดรักษาจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อวงการครีเอทีฟอย่างยั่งยืน
Fusion of Everything ฟิวชันคือทุกสิ่ง ทุกสิ่งคือฟิวชัน
เทรนด์นี้เกิดขึ้นจากการรวมองค์ประกอบที่หลากหลาย ทั้งแนวคิด ศิลปะ วัฒนธรรม เทคโนโลยี รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรในการออกแบบที่หลากหลายเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายและมีพลัง จับใจผู้ชมผ่านมุมมองที่ซับซ้อนและไม่ซ้ำใคร
เมื่อทุกสิ่งเชื่อมต่อและเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทรนด์ Fusion of Everything จึงไม่ใช่แค่การออกแบบที่ดูสวยงาม แต่เป็นการผสานแนวคิดที่หลากหลายเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่ลึกซึ้งและซับซ้อน พร้อมทั้งสะท้อนความเป็นตัวตนที่ไม่ถูกจำกัด การออกแบบตามแนวคิดนี้ยังช่วยให้คอนเทนต์มีพลังในการดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมอย่างแท้จริง
ในยุคที่การสื่อสารต้องตอบโจทย์หลากหลายด้าน นักออกแบบจำเป็นต้องใช้เครื่องมือ วัตถุดิบ ทรัพยากร และสื่อที่หลากหลายเพื่อสร้างงานที่โดนใจ
แนวทางสร้างสรรค์เทรนด์ Fusion of Everything ในงานสื่อสารและการออกแบบ
- งานเดียวใช้ได้หลายมิติ : เล่าเรื่องที่ซับซ้อนและหลากหลายมุมมอง เช่น วิดีโอแบ่งจอหลายส่วน เพื่อให้ผู้ชมได้สำรวจเนื้อหาหลายมิติ
- การใช้สีและรูปแบบที่หลากหลาย : ผสมผสานสี กราฟิก ฟอนต์ที่ต่างกัน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่แปลกใหม่และสะดุดตา
- การผสมผสานเทคโนโลยีและสื่อที่หลากหลาย : ใช้ AR, VR, 3D และวิดีโอในงานเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมที่ไม่ซ้ำใคร
- การรวมวัฒนธรรมที่หลากหลาย : ผสมผสานองค์ประกอบจากหลายวัฒนธรรม เช่น ภาษา สัญลักษณ์ เพื่อสร้างเนื้อหาที่เข้าถึงผู้ชมในระดับนานาชาติ
- การแสดงออกถึงตัวตนที่หลากหลายและซับซ้อน : นำเสนอบุคคลในบทบาทที่หลากหลาย เพื่อสะท้อนความซับซ้อนของตัวตนและการยอมรับในความแตกต่าง
เคล็ดลับการเลือกภาพสำหรับ Fusion of Everything
• คุณภาพต้องมาก่อน : เลือกภาพความละเอียดสูง พร้อมใช้งานในทุกแพลตฟอร์ม
• ความหลากหลายคือกุญแจ : ผสมผสานภาพถ่าย กราฟิก และวิดีโอ
• ตอบโจทย์หลายมิติ : เลือกภาพที่สามารถปรับแต่งด้วย AI ได้
• เล่าเรื่องได้ลึก : ใช้ภาพที่มีเรื่องราวและอารมณ์
• ทันสมัยแต่จริงใจ : สะท้อนความเป็นจริงของสังคมปัจจุบัน
การผสมผสานทรัพยากรที่หลากหลายเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้นักออกแบบสามารถสร้างเนื้อหาที่เต็มไปด้วยมิติและองค์ประกอบหลากหลายได้อย่างครบถ้วน ช่วยให้สามารถสร้างงานที่เหมาะกับทุกช่องทาง และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจผ่านการกระตุ้นประสาทสัมผัสหลายด้าน ทำให้งานออกแบบมีมิติและน่าสนใจมากขึ้น ถ่ายทอดความซับซ้อนและเอกลักษณ์ตามแนวโน้ม Fusion of Everything ได้อย่างลงตัว
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24