การเลือกสีโลโก้ที่ถูกต้องจะช่วยให้แบรนด์ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในคราวนี้เราจะมาแนะนำคู่สีเพื่อนำไปใช้สร้างแบรนด์ในยุคสมัยใหม่สไตล์โมเดิร์น สร้างความน่าจดจำและสวยงามไปพร้อม ๆ กัน
ทำไมคู่สีของโลโก้ถึงสำคัญ?
คู่สีที่แบรนด์ทั่วโลกเลือกใช้ไม่ได้มาเพราะฟลุ๊คเลือก แต่เกิดจากการคิดอย่างถี่ถ้วนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความประทับใจแรกให้แก่ลูกค้าและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต่อตัวแบรนด์
สีมีผลกระทบต่อจิตใจ อารมณ์ และสังคมมนุษย์ สีในโลโก้ก็ส่งผลลัพธ์ใกล้เคียงกับสิ่งที่กล่าวไป จากการศึกษาพบว่าสีบนโลโก้สามารถสร้างวัฒนธรรมบางอย่างในสมองมนุษย์ให้เกิดขึ้นได้นับร้อยเรื่อง เช่น เรื่องความเท่าเทียม ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
และมนุษย์ที่เราหมายถึงก็คือกลุ่มผู้ที่อาจเป็นลูกค้าของเราในอนาคต การเลือกสีที่ถูกต้องให้กับโลโก้ส่งผลระยะยาวกับแบรนด์ เป็นตัวกำหนดความรู้สึกว่าผู้คนจะต้องรู้สึกต่อตัวแบรนด์อย่างไร ตัวอย่างเช่น สีแดงแสดงถึงความหนักแน่น ก้าวร้าว มีพลัง ซึ่งอาจทำให้แบรนด์ดูมีความก้าวร้าวผิดปกติ แต่ถ้าผสมกับสีอื่น ๆ เข้าไปด้วยจะสร้างสมดุลความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
หลักการที่เลือกคู่สีให้กับโลโก้
การเลือกคู่สีให้กับโลโก้อย่างเหมาะสมต้องเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นแกนพิจารณา ซึ่งจะต้องใช้ทักษะและการค้นคว้าทางการตลาดอย่างรอบคอบ ที่เกี่ยวกับจิตวิทยาสีและข้อมูลเชิงลึกของสีที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ตัวอย่างเช่น ธุรกิจก่อสร้างมักใช้สีส้มและน้ำเงิน ร้านอาหารมักใช้สีเขียวและสีเหลือง หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการเงินมักใช้สีน้ำเงินเข้ม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามถ้าคุณอยากแตกต่างให้เลือกใช้สีที่ต่างออกไป เพื่อพลิกโฉมแบรนด์ที่กล้านำเสนอสิ่งที่แปลกใหม่กว่าและตอบโจทย์ชีวิตลูกค้ายิ่งกว่า ถึงแม้จะมีความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนจะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพียงแค่เลือกสีให้เหมาะสม
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ Apple ที่ใช้Logoหลากสีในช่วงทศวรรษ 1980 – 1990 เพื่อสร้างจุดแตกต่างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่มักใช้สีน้ำเงินและสีเทาในงานออกแบบเสียส่วนใหญ่
แต่แบรนด์ก็เริ่มพลิกกลับมาใช้ Logo สีดำและสีเทาแบบมินิมอลในเวลาต่อมา แล้วก็หันกลับมาใช้สีรุ้งอีกครั้งในแคมเปญการตลาด “Spring Loaded” ในปี 2021
ถ้าคุณพบว่าสีรุ้งเหมาะกับแบรนด์ของคุณก็ให้ทดลองใช้ได้เลย แต่ถ้ายังไม่ใช่ก็ยังมีอีกหลากหลายวิธีในการเลือกสีให้กับโลโก้
- ใช้คู่สีที่มีคอนทราสต์สูง เพราะจะมอบความสดใสและมีพลังบวกให้กับโลโก้ เพิ่มการมองเห็นได้ง่ายถ้าเป็นสินค้าที่ต้องใช้เพื่อความปลอดภัย ตัวอย่างสี เช่น สีดำ-เหลือง หรือ สีน้ำเงิน-เหลือง เป็นต้น
- ใช้สีคู่ตรงข้ามที่อยู่ในวงล้อสีเป็นหลัก เพื่อสร้างความสมดุลและดูเป็นธรรมชาติ
- ใช้สีโทนเดียวในการไล่ลำดับสี ซึ่งอยู่ข้างกันในวงล้อสี ให้ความรู้สึกสงบและความเป็นหนึ่งเดียว เช่น สีม่วงน้ำเงิน สีแดงม่วง สีส้มแดง หรือสีส้มเหลือง เป็นต้น
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดในการเลือกคู่สีให้กับโลโก้ก็คือ การเลือกสีที่ขัดแย้งกันเองจนทำให้ผลลัพธ์ไม่น่าดึงดูดสายตา หรือสื่อสารข้อความผิดพลาดไปยังลูกค้า ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการทำความคุ้นเคยกับวงล้อสีนั่นเอง
ซึ่งคู่สีสามารถมีได้ไม่จำกัด และหลายแบรนด์บนโลกต่างเลือกใช้โทนสีที่หลากหลายสำรองไว้ ในการสร้างสีสันในแคมเปญและเทศกาลพิเศษ
หลักการเลือกยังคงเหมือนเดิมก็คือความชัดเจนและอ่านง่าย ผลกระทบทางจิตวิทยาจะยังคงประสิทธิภาพถ้าคนดูสามารถเข้าใจโลโก้ได้ง่าย และต่อไปนี้ก็คือไอเดียในการเลือกคู่สีทั้ง 21 รูปแบบที่สามารถนำไปใช้งานได้ง่าย มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. Red-Orange and Buff White (เหมาะกับใช้ในธุรกิจ HR, แบรนด์กีฬา, องค์กรขนาดใหญ่)
ใช้สีแดงทีเกรี้ยวกราดผสมกับสีแดงส้มเพื่อลดความร้อนแรงลง แต่ยังคงความอบอุ่นไว้ได้
2. Buff Pink and Gray (เหมาะกับLogoไลฟ์สไตล์, ร้านค้าปลีก,ร้านเพื่อสุขภาพ)
ใช้สีที่อ่อนโยนอย่างชมพู Buff Pink และสีเทาออกเขียว ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติและความสงบ
3. Neon Green and Blue (เหมาะกับบริษัทเทคโนโลยี, เครื่องใช้ไฟฟ้า)
สร้างสีสะดุดตาด้วยสีน้ำเงินเข้มและสีเขียวนีออน ทำให้นึกถึงบริษัทเทคโนโลยี และมีความรักษ์โลกผสมผสานอยู่เล็กน้อย
4. Mint Green and Cyan Blue (เหมาะกับแบรนด์ยา การแพทย์และเภสัชกรรม)
แบรนด์การแพทย์ส่วนใหญ่มักใช้สีเขียว น้ำเงิน และสีขาวในการสร้างแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงการเยียวยารักษาคนไข้ และความสงบสุขเมื่อได้พบเห็น
5. Peach and Brown (เหมาะกับแบรนด์รักสวยรักงาม, แบรนด์โยคะ, สินค้าออร์แกนิก)
คู่สีสไตล์เอิร์ธโทน เหมาะกับสินค้าแบรนด์ออร์แกนิกและสินค้าเพื่อความสวยงาม แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติและความมั่นคง
6. Green and Cream (เหมาะกับแบรนด์อาหารออร์แกนิก, แบรนด์รักธรรมชาติ)
แบรนด์ที่สนับสนุนเรื่องความรักโลกและธรรมชาติ ควรใช้คู่สีที่มาจากธรรมชาติอย่างสีเขียวและสีขาวครีม
7. Gradient Pink and Blue (เหมาะกับบริษัทสื่อโฆษณา, เอเจนซี่โฆษณา, โลโก้เว็บไซต์)
การใช้โทนไล่สีทำให้โลโก้มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนำมาวางใส่บนพื้นหลังสีดำจะยิ่งโดดเด่น
8. Forest Green and Amber Brown (เหมาะกับแบรนด์สายลุยป่า, องค์กรการกุศล)
สัมผัสกับธรรมชาติด้วยโทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากป่าเขาลำเนาไพร สามารถเติมสีฟ้าเข้าไปเสริมได้ตามความเหมาะสม
9. Red and Camel (เหมาะกับแบรนด์สไตล์ Old school, ทีมกีฬา)
ความย้อนยุคกับคู่สีที่ลงตัว สีแดงแสดงถึงความมีชีวิตชีวาและเรียบง่าย จับคู่กับสีเอิร์ธโทนได้อย่างลงตัว
10. Purple and Yellow (เหมาะกับบริษัทเทคโนโลยี, แบรนด์ทีมกีฬา, บริษัทรับทำวิจัย)
สีม่วงคือสีที่ถูกใช้น้อยที่สุดในการทำธุรกิจทุกอย่าง ซึ่งความจริงไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะสีม่วงแสดงถึงความแพง ความก้าวหน้าและจิตวิญญาณ
11. Orange and Red-Brown (เหมาะกับแบรนด์ท่องเที่ยวพักผ่อน, โรงแรม, แบรนด์อสังหาริมทรัพย์)
คู่สีนี้เป็นสีสไตล์โทนเดียว นำสีที่อยู่ข้าวกันในวงล้อสีมาจับคู่อย่างเรียบง่าย ให้ความรู้สึกผ่อนคลายน่าอยู่อาศัยและเข้าใกล้
12. Violet and Coral Pink (เหมาะกับโลโก้เอเจนซี่โฆษณาและสื่อ, บริษัท PR, แบรนด์ Startup)
คู่สีที่ผสมผสานความขี้เล่น ให้ความรู้สึกถึงความเป็นเด็ก เหมาะกับใช้เพื่อเปิดใจลูกค้าให้รับความคิดที่สนุกสนานนี้เข้าไป
13. Orange and Royal Blue (เหมาะกับแบรนด์อาหาร,โลโก้ร้านค้าส่ง, แบรนด์โลจิสติกส์)
ใช้สีน้ำเงินผสมกับสีส้ม เป็นการใช้สีคู่ตรงข้ามจากวงล้อสีที่สมดุล ให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้
14. Teal Blue and Dark Green (เหมาะกับแบรนด์ผจญภัย, กีฬาภายนอก, แบรนด์ท่องเที่ยว)
สีเขียวน้ำเงินกับสีเขียวเข้มเป็นการจับคู่ที่ลงตัว ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่สวยงามและการผจญภัยได้เป็นอย่างดี
15. Black and White (เหมาะกับแบรนด์ครีเอทีฟ, งานศิลปะ, เอเจนซี่ผลิตหนัง)
ขาวดำเป็นสีที่ไม่ค่อยมีใครใช้ในงานออกแบบlogoเสียเท่าไหร่ เพราะถูกมองว่านำไปจับคู่กับสีอื่นได้ยาก แต่เมื่อนำมาใช้แค่สองสีแล้วกลับสร้างบุคลิกที่โดดเด่นอย่างไม่น่าเชื่อ
16. Hot Orange and Straw Yellow (เหมาะกับแบรนด์ขายของฤดูร้อน, ท่องเที่ยว, แบรนด์ที่ขายของงบจำกัด)
นำความอบอุ่นแห่งฤดูร้อนไปสู่หัวใจของลูกค้า
17. Dark Teal Blue and Red (เหมาะกับโลโก้ฟิตเนส, แบรนด์โรงยิม, อาหาร)
เพิ่มความอยากเข้าร้านเพื่อใช้บริการ ด้วยสีเขียวนกเป็ดน้ำและสีแดงเข้ม
18. Neon Turquoise and Red-Purple (เหมาะกับสตูดิโอครีเอทีฟ, แบรนด์ถ่ายหนังและถ่ายภาพ)
สีแดง-ม่วงช่วยสร้างความลึกลับ ผสมกับสีเขียวเทอร์ควอยซ์นีออนคอนทราสต์สูง เหมาะอย่างยิ่งจะเป็นสีในโลโก้บริษัทที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์
19. Dark Plum and Pink (เหมาะกับแบรนด์ร้านค้า, ผลิตภัณฑ์ความงาม, แบรนด์สุขภาพ)
คู่สีที่มีความเป็นผู้หญิง เข้าถึงง่าย และอบอุ่น เหมาะกับใช้ในร้านค้าสายแฟชั่นและความสวยงาม
20. Orange and Black (เหมาะกับแบรนด์ก่อสร้าง, สถาปนิก)
บริษัทรับเหมาก่อสร้างและสถาปัตยกรรม ต้องมีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย โดยที่สามารถสื่อสารออกมาได้เพียงแค่ผ่านlogo
21. Aqua Blue and Violet (เหมาะกับแอปพลิเคชัน, แบรนด์บริษัทเทคโนโลยี, แบรนด์บริษัทใหญ่)
ทำให้โลโก้ของคุณโดดเด่นบนหน้าจอดิจิทัล ด้วยสีโลโก้สุดโดดเด่น
เพียงเท่านี้คุณก็มีไอเดียตั้งต้นในการออกแบบlogoเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใครยังนึกอะไรไม่ออกสามารถเลือกใช้รูปภาพ โลโก้ จากทาง Shutterstock ที่มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบได้อีกด้วย ให้ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลื่นไหลไม่มีสะดุดไปพร้อมกับพวกเรา
บทความโดย : 21 Tasteful Logo Color Combinations for Modern Brands
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24