หลากหลายแบรนด์ทุกวันนี้ชอบโฆษณาตัวเองว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมาก หรือที่เรียกกันว่า Sustainability (ความยั่งยืน) แต่เราจะใช้สิ่งนี้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด? คำตอบก็คือใช้โดยอ้างอิงจากข้อมูล!
ตอนนี้เรามาถึงช่วงสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเรื่องโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่สำคัญ มนุษย์จึงต้องปรับตัวโดยคำนึงถึงโลกใบนี้ให้มากขึ้น ทำให้ธุรกิจต้องร่วมมือกันลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้โลกนี้มีสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาตต
แล้วเหตุการณ์นี้ส่งผลต่อเรื่องการตลาดอย่างไร?
ตามปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือเทรนด์ใด ๆ ในโลกเกิดขึ้น การตลาดมักจะหยิบสิ่งนั้นมาทำแคมเปญหรือคอนเทนต์เสมอ เรื่องนี้ก็เช่นกันเพราะหลายแบรนด์หยิบความ Sustainable มาใช้กับบรรจุภัณฑ์หรือวัสดุในการผลิต หรือทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เพื่อให้สังคมรับรู้ว่าแบรนด์ของพวกเขาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
คำว่า Greenwashing จึงเกิดขึ้น ซึ่งหมายถึงแบรนด์แค่ทำคอนเทนต์รับกระแส Sustainability เฉย ๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในตัวบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งเป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ดังนั้นถ้าคุณจะทำแคมเปญสไตล์นี้จริง ๆ ควรเริ่มทำอย่างจริงจังและสร้างการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปด้วย เพื่อสู้กับสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
ปัญญาประดิษฐ์จึงเข้ามามีส่วนร่วม ณ จุดนี้ Shutterstock.AI ได้ทำการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ จากพฤติกรรมผู้บริโภคและข้อมูลโฆษณาจากเอเจนซี่ต่าง ๆ เพื่อหาว่าคอนเทนต์แนวทางใดที่เหมาะสมต่อการใช้ Sustainability เช่น
- พลังงานลมหรือพลังงานแสดงอาทิตย์จะเรียกคนกดไลก์ได้เยอะกว่ากัน?
- การใช้ภาพระบบขนส่งสาธารณะในยุคปัจจุบันจะมีคนคลิกอยู่ไหม?
- สัญลักษณ์และการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบบใดที่มียอด Engage สูงสุด?
เรามีการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไว้ให้คุณ เพื่อปรับทิศทางแบรนด์ของคุณให้มีความน่าดึงดูดสายตามากขึ้น และมียอดการคลิกเข้าชมมากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจเรื่อง Sustainability
ทรัพยาการพลังงานกับการตอบแทนที่คุ้มค่า
เมื่อพูดถึง Sustainablitiy พลังงานหมุนเวียนมักจะเป็นสิ่งแรกที่หลายแบรนด์นำมาใช้ โดยการนำภาพแผลโซลาร์เซลล์หรือยอดเขาที่เต็มไปด้วยกังหันลม
แต่ความจริงก็คือภาพกังหันลมมีอัตราคลิก (Click through rate หรือ CTR) เยอะกว่าพลังงานใด ๆ เพราะเมื่อปีก่อนภาพกังหันลมมีอัตราคลิกสูงกว่าพลังงานอื่น ๆ ถึง 622%
พลังงานลมมีอัตราคลิกสูงกว่าโรงไฟฟ้าถึง 35% และมากกว่าปลั๊กไฟถึง 40%
นอกจากนี้ข้อมูลยังบอกเราว่า ผู้บริโภคยังคงมีแนวโน้มชอบคลิกแผงโซลาร์เซลล์ เพราะอัตราคลิกแผงโซลาร์เซลล์ยังคงเพิ่มขึ้น 257% เมื่อช่วงนี้ของปีที่แล้ว
อีกอย่างก็คือแสงอาทิตย์ยังมีมีอัตราคลิกสูงเพิ่มขึ้นถึง 210%
พลังงานที่กล่าวมาทั้งหมดมีอัตราคลิกสูงกว่าน้ำมันเบนซินอย่างเห็นได้ชัด อย่างพลังงานลมมีอัตราคลิกสูงกว่าปั๊มแก๊สถึง 200% และแผงโซลาร์เซลล์ก็เยอะกว่าถึง 170%
แสดงให้เห็นเรื่องการรีไซเคิลอย่างจริงจัง
เมื่อพูดถึงการตลาดเชิงรักษ์โลก เรามักจะเห็นภาพยอดนิยมไม่กี่คอนเซปต์ หนึ่งในนั้นก็คือสัญลักษณ์ลูกศรรีไซเคิลที่หมุนวนเป็นวงกลม ภาพเหล่านั้นมักมาพร้อมกับรูปมือที่ถือยอดอ่อนต้นไม้ หรือแสงอาทิตย์สาดแสงลงพื้นดิน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกดีต่อธรรมชาติ
แน่นอนว่าสัญลักษณ์เหล่านี้มักมาคู่กับ Greenwashing แต่ส่งผลอะไรกับคอนเทนต์มากน้อยแค่ไหน?
สิ่งที่น่าสนใจก็คือข้อมูลบอกเราว่า ผู้บริโภคมักชอบคลิกเข้าดูคอนเทนต์ที่มีภาพแสดงถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่กำลังทำกิจกรรมอนุรักษ์โลก เพื่อโลกที่ดีกว่าเสมอ ๆ
สัญลักษณ์รีไซเคิลจึงกลายเป็นภาพตกยุคที่มีอัตราคลิกตกลงมาถึง 87% จากปีก่อน
ให้คุณหันมาใช้ภาพมนุษย์ที่ทำกิจกรรมรีไซเคิลร่วมกับภาพตะกร้าขยะ เพราะมีอัตราคลิกสูงกว่าปีที่ผ่านมา ยิ่งเป็นภาพตะกร้าขยะที่เต็มแล้วนั้นมีอัตราคลิกสูงถึง 229%
ใช้ภาพรถไฟและรถไฟฟ้าใต้ดิน
มาพูดถึงเรื่องของบุคคลกันเสียบ้าง เพราะ AI บอกกับเราว่าให้ลองใช้ภาพการเดินทางโดยที่มีบุคคลเป็นส่วนประกอบ
การเดินทางสามารถสร้าง Carbon footprints ได้มหาศาล แล้วจะใช้อย่างไรให้การเดินทางดู Sustainable มากขึ้น?
จากข้อมูลโฆษณาปีที่แล้ว Shutterstock.AI พบว่ารถไฟฟ้าใต้ดินสามารถเรียกอัตราคลิกได้สูงที่สุดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งพุ่งสูงถึง 2,991% มากกว่ารถยนต์ถึง 342% และมากกว่าเครื่องบินถึง 709%
แต่ทุกวันนี้รถไฟทุกประเภทก็ยังสามารถเรียกอัตราคลิกได้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งมากขึ้นถึง 273% ในช่วงปีที่ผ่านมา
แต่ถ้าการใช้ภาพขนส่งสาธารณะไม่ตอบโจทย์คุณ ตัวเลือกการเดินทางอีกประเภทหนึ่งที่แนะนำก็คือจักรยาน ซึ่งเป็นข้อมูลอันดับ 3 รองลงมาจากรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟ
ถึงแม้รถจักรยานมีอัตราคลิกรองลงมาเป็นอันดับ 3 ก็จริง แต่มีอัตราคลิกสูงกว่าปีที่แล้วถึง 900% ซึ่งมากกว่ารถยนต์ถึง 147%
ซึ่งสมเหตุผลเพราะปัจจุบันที่สหรัฐอเมริกามีการปรับปรุงถนนทั่วประเทศ เพื่อเอื้อเฟื่อให้จักรยานสามารถปั่นได้ง่ายขึ้น ทำให้ผู้บริโภคใช้จักรยานมากขึ้น
รถยนต์ปกติไม่มีบทบาทมากนักในช่วงนี้ เพราะแม้แต่รถจักรยานยนต์ยังเอาชนะเรื่องอัตราคลิกรถยนต์ได้ ซึ่งมากกว่าถึง 82%
ดังนั้นหากคุณต้องการใช้ภาพรถยนต์พลังงานน้ำมันในโฆษณาของคุณ ข้อมูลแนะนำให้คุณนำภาพยานพาหนะสองล้ออื่น ๆ มาประกอบด้วย
วิธีแสดงการใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Sustainable
ข้อมูลเชิงลึกทางการตลาดทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมมาจากข้อมูล 15 อุตสาหกรรมใหญ่ของ Shutterstock.AI โดยเน้นที่อุตสาหกรรม CPG หรือ Consumer packaged goods เพื่อหาว่าเทรนด์ Sustainability ใดที่ส่งผลต่อคอนเทนต์ในปัจจุบัน
เคยคิดกันไหมว่าวัสดุแบบใดที่สามารถใช้สร้างบรรจุภัณฑ์ได้ทุกอุตสาหกรรม วัสดุแบบใดที่โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด?
ข้อมูลบอกเราว่าแก้วเป็นวัสดุที่มีอัตราคลิกเยอะที่สุดโดยพึ่งสูงกว่าปีก่อนถึง 184% ถึงแม้ว่าพลาสติกกับแก้วจะมีผลดีและผลเสียด้านสิ่งแวดล้อมทั้งคู่ แต่แก้วก็มีอัตราคลิกสูงกว่าพลาสติกถึง 42%
ทางเราแนะนำให้นำผลิคภัณฑ์ที่คุณใช้โฆษณาบรรจุลงในภาชนะแก้ว เช่น เครื่องดื่ม ของหวาน อาหารกลางวัน ฯลฯ
กระเป๋าผ้าใบเป็นอีกทางเลือกเพราะสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ และมีอัตราคลิกสูงกว่าปีก่อน 189% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ช่วงเวลาเหล่านี้จึงเป็นโอกาสของการใช้สินค้ารีไซเคิลหรือใช้ซ้ำ แสดงให้เห็นภาพของมนุษย์ที่ปั่นจักรยานไปซื้อของ โดยห้อยถุงผ้าที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
การรวมสิ่งต่าง ๆ ที่เรากล่าวมานี้ไว้ในคอนเทนต์เดียวจะทำให้ผู้บริโภคเห็นความใส่ใจ Suntainability สร้างความเชื่อมโยงต่อผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้กับคอนเทนต์ของคุณต่อไปในอนาคต
บทความโดย : How to Show off Your Brand’s Sustainability, According to Data
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24