เทคโนโลยี AI เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบที่ไม่มีใครคาดคิด แต่อคติที่มีต่อ AI กลับเพิ่มขึ้นตามอย่างมีนัยสำคัญ ครั้งนี้เราจะมาคุยถึงวิธีจัดการอคติที่มีต่อ AI เพิ่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น AI ก็เป็นแค่เครื่องมือหนึ่งที่จะมาช่วยคุณทำงานง่ายขึ้นเท่านั้น
ทุกวันนี้ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เชื่อใจ AI (Artificial intelligence) หรือเรียกในภาษาไทยว่าปัญญาประดิษฐ์ มีเพียง 37% ของธุรกิจทั้งหมดและองค์กรบางประเภทเท่านั้นที่ใช้ AI ร่วมกับการทำงานจริง แต่ 90% ของธุรกิจชั้นนำของโลกเริ่มลงทุนกับเทคโนโลยี AI เพื่อใช้ทำงานเรียบร้อยแล้ว
การมองของ AI (คอมพิวเตอร์วิทัศน์ การประมวลผลสภาพแวดล้อม ฯลฯ) เป็นหัวใจหลักและเป็นกระดูกสันหลังของธุรกิจหลายประเภท ตั้งแต่เรื่องประกันไปจนถึงการแพทย์ เครื่องมือเหล่านี้จะคอยปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณไปเรื่อย ๆ
แต่การจะให้เป็นแบบที่กล่าวมาได้นั้น เทคโนโลยี AI จะต้องได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกค้าและสาธารณชนเสียก่อน เพราะว่าการที่จะให้ AI เข้ามาช่วยเหลือด้านอะไรก็ตาม จะต้องขับเคลื่อนด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาลจากฐานข้อมูล ที่ต้องเชื่อใจได้ หลากหลาย และได้มาอย่างถูกต้องตามจริยธรรม
หนึ่งในความท้าทายที่ขัดขวางก็คือการเรียนรู้ของตัวโปรแกรมที่จะนำไปใช้เอง เพราะทุกโปรแกรมต้องผ่านการเรียนรู้ข้อมูลมาอีกแบบหนึ่ง การนำข้อมูลมหาศาลรูปแบบใหม่ไปเพิ่มให้ก็อาจเกิดความขัดแย้งในตัวโปรแกรมเอง แต่ด้วยกรอบการทำงานและจริยธรรมที่เรามี มั่นใจได้เลยว่าเทคโนโลยีนี้จะสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่องค์กรและตัวบุคคลได้อย่างแน่นอน
4 วิธีจัดการอคติที่มีต่อ AI
Shutterstock มีความภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ลดอคติและสร้างจริยธรรมการใช้งาน AI ให้เกิดขึ้น ทุกทีมงานที่ใช้ AI ทำงานจะต้องเข้าใจปัญหาความอคติที่อาจะเกิดขึ้น และหาทางป้องกันก่อนจะเกิดเรื่องใหญ่
วิธีมีดังนี้
- ลดอคติทางเชื้อชาติและทำให้ถูกต้อง ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อนักพัฒนาระบบไม่มีความหลากหลายมากเพียงพอ ทำให้อาจมีข้อมูลจากเชื้อชาติเดียวเข้ามาในระบบ จากรายงานของ ACLU เผยว่า “ระบบ AI จะประเมินข้อมูลจากผู้ที่ใช้งานโดยอ้างอิงจากประวัติที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งอาจมีข้อมูลที่ไม่หลากหลายและข้อมูลเท็จไม่ตรงกับข้อเท็จจริง” ใครที่กำลังสร้าง AI โปรดระวังและพิจารณาให้ดีว่าทีมงานและผลงานของคุณ มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากพอหรือไม่ เพื่อลดอคติที่เกิดจากเชื้อชาติลง
- ตรวจสอบก่อนปฏิบัติจริง เพื่อป้องกันอคติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ คุณจะต้องเตรียมข้อมูลสำหรับการทดสอบอย่างเข้มงวด ก่อนจะนำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการทำจริง โมเดล AI ควรได้รับการทดสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาอคติที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น เพศ ชาติพันธุ์ ไปจนถึงพฤติกรรม
- สร้างชุดข้อมูลให้หลากหลาย การใส่ข้อมูลจากสิ่งที่เราเคยเห็นเพียงด้านเดียว อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่หลากหลายและขาดความสมจริงไป ผลลัพธ์ที่ออกมาจะต้องได้รับข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคอมพิวเตอร์วิทัศน์จะมีความแม่นยำสูงสุด
- ทีมงานหลากหลายและครอบคลุม AI ที่เกิดจากทีมงานที่มีความหลากหลายของเชื้อชาติ เพศ อายุ และภูมิหลังที่ต่างกัน จะช่วยลดโอกาสในการเลือกปฏิบัติได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความน่าไว้วางใจแก่ระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ด้วย
ทีมงานของเราสู้กับความอคติในการพัฒนาระบบ Shutterstock AI มาอย่างยาวนาน โดยร่วมมือกับศิลปินทั่วโลกผู้มอบข้อมูลแก่เรา
Shutterstock สร้างคอนเทนต์จากเครือข่ายศิลปินที่มีอยู่ 150 ประเทศทั่วโลก ทำให้มั่นใจได้เลยว่าภาพจะมีความหลากหลาย และสื่อสารได้ถูกต้อง
ในปี 2022 Shutterstock ก่อตั้งระบบ The Create Fund เพื่อยกระดับคอนเทนต์จากศิลปินท้องถิ่น เพื่อเติมเต็มคอนเทนต์ให้สมจริงยิ่งขึ้น สร้างความหลากหลาย และเข้าถึงชีวิตจริง ๆ ของคนในพื้นที่
เปิดใจรับ AI ที่ผ่านการฝึกและถูกจริยธรรม
การออกแบบและการใช้ AI ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการฝึกอบรมทีมงาน สร้างความรับผิดชอบต่อโลกนี้ พร้อมมอบข้อมูลให้กับ AI ด้วยมุมมองทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย
Shutterstock มีโอกาสได้ร่วมมือกับ World Ethical Data Foundation เพื่อพัฒนาระบบฝึกอบรมเฉพาะทางให้พนักงาน Shutterstock เป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบทางสังคมของเทคโนโลยี AI เครื่องมือต่าง ๆ และความรู้การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ
สิ่งนี้เกิดขึ้นแล้วกับหลายบริษัททั่วโลก ถือว่าแต่ละบริษัทตื่นตัวรวดเร็วเป็นอย่างมาก
เมื่อ AI ถูกนำมาปรับใช้งานมากขึ้น เราจึงต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่า เครื่องมือของเรามีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และถูกจริยธรรมในระดับที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในท้ายที่สุด
บทความโดย : Four Solutions to Tackle AI Bias for a More Effective AI Strategy
เรียบเรียงโดย : ทีมงานชัตเตอร์สต็อกประเทศไทย ดำเนินงานโดย นัมเบอร์ 24